Talk of The Town
หุ้นกลุ่มสินค้าไอที แห้ว! เงิน “Digital Wallet” ซื้อไม่ได้ แต่หุ้นค้าปลีก CPALL-BJC ได้ประโยชน์
11 กรกฎาคม 2567
วานนี้หรือในวันที่ 10 ก.ค. คณะอนุกรรมการกำกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ได้ออกมาเปิดเผยข้อสรุปต่างๆก่อนที่จะนำเสนอต่อประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งจะประชุมวันที่ 15 ก.ค.67
สำหรับในครั้งนี้ ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่างๆไม่ว่าวงเงินที่ลดลงและจำกัดกลุ่มสินค้าที่สิทธ์เพิ่มเติม ซึ่งจาก 2 ประเด็นหลัก จะมีผลกระทบต่อตลาดทุนและเศรษฐกิจอย่างไรบ้างนั้น ไปรับมุมมองจากนักวิเคราะห์กัน
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่าตามที่คณะอนุกรรมการนโยบาย Digital Wallet ได้ข้อสรุปเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบาย ประกอบไปด้วยตัดลดงบ 5 แสนล้านบาทเหลือ 4.5แสนล้านบาท (ภายใต้สมมติฐานอัตราส่วนผู้ใช้สิทธิ์ในโครงการราว 90% ของกลุ่มคนที่มีสิทธิ์ 50 ล้านคน) และไม่ใช้งบจากธกส. ใช้งบประมาณปี 2567-2568 เพียงพอ มองลดความเสี่ยงอาจทำให้นโยบายดังกล่าวเดินหน้าต่อไม่ได้
รวมไปถึงได้เพิ่มกลุ่มสินค้าที่ห้ามนำเงินดิจิตอลไปใช้สิทธิ์ในกลุ่มสินค้านำเข้า เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ มือถือ ข้อดี คือ คาดว่าจะเห็นกำลังซื้อไปยังสินค้าจำเป็นได้ต่อเนื่อง มองจิตวิทยาลบต่อ หุ้นในกลุ่มค้าปลีกมือถือ COM7, JMART, SPVI, CPW
หลังจากนี้ ติดตามความชัดเจนเพิ่มเติมในวันที่ 15 ก.ค. ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ 24 ก.ค. การแถลงถึงนโยบายดังกล่าวของนายกฯ และ 30 ก.ค. จะเป็นวันที่นำเรื่องเข้า ครม. พิจารณา ผลบวกโครงการดังกล่าวที่ยังไม่รวมในประมาณการตลาดและกำไรกลุ่ม Domestic ที่ได้ประโยชน์ อาทิ ค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC, DOHOME, TNP) เครื่องดื่ม (OSP, CBG, ICHI) เช่าซื้อ (MTC, JMT) ธนาคาร (KBANK, BBL, SCB)
ขณะที่รายละเอียดที่เปลี่ยนใหม่น่าจะช่วยผลักดันนโยบายได้และกระทบวินัยการคลังน้อยลง อย่างไรก็ดี เม็ดเงินที่ลดลงทำให้เป็นลบอ่อนๆ เทียบกับความคาดหวังตลาดเดิม ส่วนผลบวกต่อ GDP ภายใต้เม็ดเงินดังกล่าวจะเป็นอัพไซด์ต่อ GDP งวดไตรมาส 4/67 และปี 25687 ราว 0.6%
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่าจะเป็นบวกต่อตลาด ในเรื่องความเสี่ยงจากการก่อหนี้ของรัฐบาลที่จะลดลง แต่เรื่องการตัดสินค้าบางรายการออกไป อาจกระทบทางจิตวิทยาต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องหากหุ้นเหล่านี้ถูกมองว่าจะได้ประโยชน์จาก Digital Wallet มาก่อนหน้านี้
โดยหุ้นที่ขายสินค้า(ต้องห้าม) เหล่านี้ อาทิ COM7, SYNEX, SIS, SPVI, CPW, ADVANC, TRUE,HMPRO แต่จะไปเพิ่มโอกาสให้กับหุ้นอุปโภค-บริโภค วัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้ประโยชน์มากที่สุด คือ CPALL, CPAXT, BJC, GLOBAL และ DOHOME
สำหรับในครั้งนี้ ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่างๆไม่ว่าวงเงินที่ลดลงและจำกัดกลุ่มสินค้าที่สิทธ์เพิ่มเติม ซึ่งจาก 2 ประเด็นหลัก จะมีผลกระทบต่อตลาดทุนและเศรษฐกิจอย่างไรบ้างนั้น ไปรับมุมมองจากนักวิเคราะห์กัน
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่าตามที่คณะอนุกรรมการนโยบาย Digital Wallet ได้ข้อสรุปเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบาย ประกอบไปด้วยตัดลดงบ 5 แสนล้านบาทเหลือ 4.5แสนล้านบาท (ภายใต้สมมติฐานอัตราส่วนผู้ใช้สิทธิ์ในโครงการราว 90% ของกลุ่มคนที่มีสิทธิ์ 50 ล้านคน) และไม่ใช้งบจากธกส. ใช้งบประมาณปี 2567-2568 เพียงพอ มองลดความเสี่ยงอาจทำให้นโยบายดังกล่าวเดินหน้าต่อไม่ได้
รวมไปถึงได้เพิ่มกลุ่มสินค้าที่ห้ามนำเงินดิจิตอลไปใช้สิทธิ์ในกลุ่มสินค้านำเข้า เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ มือถือ ข้อดี คือ คาดว่าจะเห็นกำลังซื้อไปยังสินค้าจำเป็นได้ต่อเนื่อง มองจิตวิทยาลบต่อ หุ้นในกลุ่มค้าปลีกมือถือ COM7, JMART, SPVI, CPW
หลังจากนี้ ติดตามความชัดเจนเพิ่มเติมในวันที่ 15 ก.ค. ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ 24 ก.ค. การแถลงถึงนโยบายดังกล่าวของนายกฯ และ 30 ก.ค. จะเป็นวันที่นำเรื่องเข้า ครม. พิจารณา ผลบวกโครงการดังกล่าวที่ยังไม่รวมในประมาณการตลาดและกำไรกลุ่ม Domestic ที่ได้ประโยชน์ อาทิ ค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC, DOHOME, TNP) เครื่องดื่ม (OSP, CBG, ICHI) เช่าซื้อ (MTC, JMT) ธนาคาร (KBANK, BBL, SCB)
ขณะที่รายละเอียดที่เปลี่ยนใหม่น่าจะช่วยผลักดันนโยบายได้และกระทบวินัยการคลังน้อยลง อย่างไรก็ดี เม็ดเงินที่ลดลงทำให้เป็นลบอ่อนๆ เทียบกับความคาดหวังตลาดเดิม ส่วนผลบวกต่อ GDP ภายใต้เม็ดเงินดังกล่าวจะเป็นอัพไซด์ต่อ GDP งวดไตรมาส 4/67 และปี 25687 ราว 0.6%
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่าจะเป็นบวกต่อตลาด ในเรื่องความเสี่ยงจากการก่อหนี้ของรัฐบาลที่จะลดลง แต่เรื่องการตัดสินค้าบางรายการออกไป อาจกระทบทางจิตวิทยาต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องหากหุ้นเหล่านี้ถูกมองว่าจะได้ประโยชน์จาก Digital Wallet มาก่อนหน้านี้
โดยหุ้นที่ขายสินค้า(ต้องห้าม) เหล่านี้ อาทิ COM7, SYNEX, SIS, SPVI, CPW, ADVANC, TRUE,HMPRO แต่จะไปเพิ่มโอกาสให้กับหุ้นอุปโภค-บริโภค วัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้ประโยชน์มากที่สุด คือ CPALL, CPAXT, BJC, GLOBAL และ DOHOME