Amazon ค้าปลีกยักษ์โลกใช้คลาวด์ AI ช่วยเพิ่มรายได้หลายหมื่นล้านเหรียญ

หากพูดบริษัทอีคอมเมิซยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลก ก็คือ Amazon.com Inc ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จากจุดเริ่มต้นร้านขายหนังสือออนไลน์มาสู่การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีไปสู่การบริการและธุรกิจใหม่ๆ จนได้การยอมรับจากทั่วโลกให้เป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรม

สำหรับโครงสร้างรายได้ของ Amazon หลักๆมาจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ รองมาเป็นการบริการผู้ขายบนแพลตฟอร์ม, Amazon WebServices (AWS), โฆษณา, บริการ Subscription  และร้านค้าออฟไลน์ 

แต่นอกจากโครงสร้างรายได้ข้างต้น จุดที่ความน่าสนใจก็คือ การลงทุนในการวิจัยและพัฒนาของ Amazon ใช้จำนวนเงินสูงมากที่สุดในโลกและยังมากกว่าค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาขอบริษัทขนาดใหญ่ในโลกด้วยเช่นกัน

โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ให้มุมมองว่า Amazon เพิ่มเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลสะท้อนทิศทางการเปลี่ยนผ่านธุรกิจจากเดิมที่มุ่ง E-commerce ไปเน้นที่กลุ่มคลาวด์ AI มากขึ้น 

และในปีที่ผ่านมาได้ใช้เงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้น 53% ซึ่งมากกว่าการใช้จ่ายในคลังสินค้าและเป็นระดับการใช้จ่ายที่สูงสุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากมีความต้องการบริการคลาวด์และ AI ที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ Amazon มีแผนใช้เงินกว่า 1 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์ภายใน 10 ปีข้างหน้า สําหรับการสร้างศูนย์ข้อมูล เพื่อรองรับความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะหนุนให้รายได้จาก AI เพิ่มขึ้นกว่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ฯในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

โดย Amazon Web Services (AWS) ผู้ให้บริการที่หลากหลายมากกว่าแค่แชทบอท เช่นการสร้างแนวทางปฏิบัติที่ปลอดภัยสําหรับการสร้างแอปพลิเคชัน AI, การรวมโมเดลภาษาขนาดใหญ่หลายรุ่นเข้าด้วยกันเพื่อประสิทธิภาพการทํางานที่ดี 

ตัวอย่างลูกค้าของ AWS เช่น Pfizer ใช้ generative AI ผ่าน AWS และ Bedrock เพื่อค้นหายา โดยคาดว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายราว 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์ในปีนี้

ทั้งนี้ ยังคงแนะนํา ซื้อเพื่อลงทุน เชื่อว่าการเติบโตในปี 2567 ยังคงดีจากแผนการควบคุมต้นทุนที่ดี, การเปลี่ยนจุดโฟกัสธุรกิจไปยังกลุ่มคลาวด์ที่มีแนวโน้มโตดีจาก AI รวมถึงเศรษฐกิจที่ดูดีขึ้นส่งผลบวกต่อธุรกิจคอมเมิซ Bloomberg Target Price ที่ 220 เหรียญดอลลาร์ฯ (USD)