บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ประกาศขายหุ้นทั้งหมดในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ จำนวน 3 แห่ง ในประเทศอินโดนีเซีย ให้แก่บริษัท สตาร์ เอ็นเนอร์ยี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด โดยการซื้อขายหุ้นดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 โดยเอ็กโก กรุ๊ป รับรู้รายได้จากการขายหุ้นทั้งสิ้น 485 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเท่าประมาณ 16,780 ล้านบาท)
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 บริษัท โฟนิกซ์ พาวเวอร์ บีวี (พีพี) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเอ็กโก ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท สตาร์ เอ็นเนอร์ยี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เพื่อขายหุ้นในบริษัท สตาร์ เอ็นเนอร์ยี่ จีโอเทอร์มอล จำกัด (เอสอีจี) สัดส่วน 20% ของหุ้นสามัญที่ออกชำระแล้ว และขายหุ้นในบริษัท สตาร์ โฟนิกซ์ จีโอเทอร์มอล เจวี บีวี (เอสพีจี) ในสัดส่วน 30.25% ของหุ้นสามัญที่ออกชำระแล้ว
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO กล่าวว่า เอ็กโก กรุ๊ป มีแผนจะนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นดังกล่าวไปใช้ในการลงทุนในโครงการใหม่ในอนาคต โดยเฉพาะโครงการพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดที่มีศักยภาพในการเติบโตเพิ่มมากขึ้น
"การขายหุ้นทั้งหมดในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพทั้ง 3 แห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การบริหารจัดการสินทรัพย์และการลงทุนของเอ็กโก กรุ๊ป โดยบริษัทสามารถรับรู้กำไรจากการขายหุ้นและมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เพื่อรองรับการลงทุนในโครงการใหม่ในอนาคต โดยเฉพาะโครงการพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดที่มีศักยภาพในการเติบโตเพิ่มมากขึ้น" นายเทพรัตน์ กล่าว
เอ็กโก กรุ๊ป เริ่มเข้าลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี 2557 โดยถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วน 20% และ 20.07% ของหุ้นสามัญที่ออกชำระแล้วของ "เอสอีจี วายัง วินดู" (เอสอีจีดับบลิวดับบลิว) และ "เอสอีจี ซาลัก-ดาราจัท บีวี" (เอสอีจีเอสดี) ผ่าน "เอสอีจี" และ "เอสพีจี"