สรุป! เงิน Digital Wallet ใช้ซื้อสินค้าอะไร และใครได้ประโยชน์?

เริ่มมีความชัดเจนเข้ามาเต็มที สำหรับโครงการ Digital Wallet แจกเงิน 10,000 บาท โดยล่าสุดมีการปรับเปลี่ยนวงเงินเหลือเพียง 4.5 แสนล้านบาท คาดการณ์คนลงทะเบียนราว 90% จากเดิมคาดจะใช้งบประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยเพิ่มสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์-เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์สื่อสารไม่สามารถใช้เงิน Digital Wallet ซื้อได้

แต่การตัดสินค้ากลุ่มดังกล่าวออกไป นักวิเคราะห์คาดเพิ่มโอกาสให้กับหุ้นอุปโภค-บริโภค วัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้ประโยชน์มากที่สุด ดังนั้นทีมข่าว Share2Trade จึงได้สรุปข้อมูลโครงการนี้ และหุ้นที่กำลังจะได้รับผลประโยชน์โดยตรงมาฝากนักลงทุน

สำหรับสินค้าที่ไม่สามารถใช้เงิน Digital Wallet ซื้อได้ รวมจำนวน 19 รายการ ประกอบด้วย 1.สลากกินแบ่งรัฐบาล 2.ยาสูบ 3.กระท่อม 4.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 5.กัญชา 6.พืชกระท่อม 7.ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม 8.บัตรกำนัล 

9.บัตรเงินสด 10.เพชร 11. อัญมณี 12.ก๊าซธรรมชาติ 13.ทองคำ 14.พลอย 15.น้ำมันเชื้อเพลิง 16.บริการต่างๆ ไม่สามารถเข้าร่วมได้ 17. เครื่องใช้ไฟฟ้า 18. สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และ19.อุปกรณ์สื่อสาร แต่อย่างไรก็ตามยังรอเสนอที่ประชุมบอร์ด Digital Wallet ชุดใหญ่อีกครั้ง วันที่ 15 ก.ค.นี้

ส่วนการเตรียมงบประมาณเพื่อรองรับราว 4.5 แสนล้าบบาท ใช้วิธีการบริหารจัดการด้วยวิธีงบประมาณตามปกติได้ แบ่งเป็น การดำเนินการผ่านงบประมาณปี 2567 ที่จะมีการตั้งงบประมาณราว 1.6 แสนล้านบาท ประกอบด้วย งบประมาณเพิ่มเติม 1.22 แสนล้าบาท และงบประมาณจากการบริหารจัดการในส่วนต่าง ๆ อีกราว 4.3 หมื่นล้านบาท 

และในปีงบประมาณ 2568 จะมีการตั้งงบประมาณ 2.8 แสนกว่าล้านบาท มาจากการตั้งงบประมาณ 1.52 แสนล้านบาท และจากการบริหารจัดการงบประมาณในส่วนอื่น ๆ อีกราว 1.32 แสนล้านบาท

นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า อนุกรรมการ Digital Wallet ระบุว่าอาจไม่จำเป็นต้องใช้เงินของ ธ.ก.ส. เนื่องจากผลการศึกษาโครงการของรัฐฯ ที่ผ่านมามีผู้ใช้ไม่ถึง 90% ดังนั้น การเตรียมงบประมาณจะใช้เงินราว 4.5 แสนล้านบาท ซึ่งใช้วิธีจัดสรรตามปกติได้ 

โดยมาจากงบประมาณปี 67 เท่ากับ 1.6 แสนล้านบาท, งบประมาณปี 68 เท่ากับ 2.8 แสนล้านบาท แต่รายละเอียดลงทะเบียนจะแถลงเพิ่มเติมในวันที่ 24 ก.ค. นี้

สำหรับรายการสินค้าที่ไม่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า มือถือ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและพืชกระท่อม บัตรกำนัน บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ และบริการต่างๆ มอง CPALL CPAXT เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจาก Digital Wallet

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด มีความเห็นว่า ประเมินความเคลื่อนไหวดังกล่าวกำลังสะท้อนว่า โครงการ DIGITAL WALLET ยังคงเดินหน้าต่อไป และน่าจะเริ่มเห็นเม็ดเงินหมุนเวียนได้ในช่วงไตรมาส 4/67 

จึงคาดหวังว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้ตามเป้าหมายของรัฐบาล หนุนให้ GDP GROWTH บ้านโตได้เฉลี่ยอย่างน้อย 2.8%จากปีก่อน (มีโอกาสแตะระดับ 3-4%) รัฐบาลคาดจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 1.2-1.6% ของ GDP ทั้งปี (TURNOVER 0.40.5 เท่า) 

ด้านหุ้นที่คาดว่าได้ประโยชน์ คือ หุ้นกลุ่มอาหาร-ค้าปลีก/ค้าส่ง ที่นักลงทุน เริ่มให้ความสนใจหุ้นกลุ่มนี้มากขึ้น อาทิ CPALL, DOHOME, CBG, OSP, CRC, GLOBAL, BJC, ICHI, M 

ดังนั้นสรุป โครงการ DIGITAL WALLET มีสัญญาณที่ดีให้เดินหน้าต่อไปได้ โดยเริ่มใช้ได้ไตรมาส 4/67 ขณะที่รัฐบาลคาดจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 1.2-1.6% ของ GDP ทั้งปี (TURNOVER 0.4-0.5 เท่า) ส่วนหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ คือ หุ้นกลุ่มอาหาร-ค้า ปลีก/ค้าส่ง อาทิ อาทิ CPALL, DOHOME, CBG, OSP, CRC, GLOBAL, BJC, ICHI, M เป็นต้น

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองประเด็นนี้เป็นบวกต่อตลาด ในเรื่องความเสี่ยง จากการก่อหนี้ของรัฐบาลที่จะลดลง 

ส่วนเรื่องการตัดสินค้าบางรายการออกไป อาจกระทบทางจิตวิทยาต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง หากหุ้นเหล่านี้ ถูกมองว่าจะได้ประโยชน์จาก Digital Wallet มาก่อนหน้านี้ โดยหุ้นที่ขายสินค้า (ต้องห้าม) เหล่านี้ อาทิ  COM7, SYNEX, SIS, SPVI, CPW, ADVANC, TRUE, HMPRO  

แต่จะไปเพิ่มโอกาสให้กับหุ้นอุปโภค-บริโภค วัสดุก่อสร้างที่คาดได้ประโยชน์มากที่สุด คือ CPALL, CPAXT, BJC, GLOBAL, DOHOME