Wealth Sharing

“ทรัมป์” คะแนนนิยมพุ่ง ลุ้นพรรครีพับลิกัน ชนะเลือกตั้งสหรัฐ โบรกฯชี้ 8 หุ้นไทยรับปัจจัยเชิงบวก


15 กรกฎาคม 2567

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ประเด็นโดนัลด์ ทรัมป์โดนยิง ส่งผลให้การเลือกตั้งสหรัฐฯ มีความเข้มข้นขึ้น ทั้งนี้หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ถูกคนร้ายลอบยิงในระหว่างการปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว ทำให้โพลคะแนนการเลือกตั้งสหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย 

WS (เว็บ)_ทรัมป์ คะแนนนิยมพุ่ง copy_0.jpg

โดยล่าสุดอ้างอิงจาก THE ECONOMIST พรรค REPUBLICAN ได้คะแนนความนิยม 46 คะแนน นำพรรค DEMOCRATIC ที่ได้ 44 คะแนน ซึ่งก่อนหน้านี้คะแนนของทั้ง 2 พรรคอยู่ใกล้เคียงกัน

อย่างไรก็ตาม หากผลโพลมีความแม่นยำ และการเลือกตั้งสหรัฐฯวันที่ 17 พ.ย.67 ออกมาว่าพรรค REPUBLICAN ชนะ นักลงทุนอาจต้องรับมือผลกระทบจากนโยบายต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต 

อาทิ การลดกาษีงินได้, TRADE WAR สหรัฐ-จีน, การเก็บภาษีสินค้านำเข้า 10% จากทั่วโลก, ความมั่นคงและการป้องกันประเทศ, สนับสนุนพลังงานเก่า(ถ่านหิน) และอื่นๆ 

ขณะเดียวกันหากพิจารณาจากผลตอบแทนสินทรัพย์ต่างๆ ในช่วงปี 2560-2564 2017 ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ บริหารสหรัฐฯ ซึ่งสินทรัพย์ที่ปรับตัวได้ดี คือ ค่า BDI INDEX +97.6%, ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DOW JONES +57.3% S&P500 +69.6%และค่าเงิน DOLLAR INDEX ที่อ่อนค่า 10.2% ส่งผลให้ THAI BAHT แข็งค่า 15.3%

ส่วนหุ้นไทยที่คาดได้ SENTIMENT เชิงบวกจากประเด็นดังกล่าว คือ TTA PSL RCL AMATA WHA  PTTEP BANPU BDMS เป็นต้น แต่คาดว่าได้ SENTIMENT เชิงลบ คือ กลุ่มส่งออก และชิ้นส่วนฯ

สรุป กรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกลอบยิง ส่งผลให้ต่อทิศทางการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยล่าสุดอ้างอิงจาก THE ECONOMIST ให้ความเห็นว่าพรรค REPUBLICAN ได้คะแนนความนิยม 46 นำพรรค DEMOCRATIC ที่ได้คะแนน 44 ซึ่งหากพรรคREPUBLICAN ชนะ สินทรัพย์ที่ปรับตัวได้ดี คือ ค่า BDI INDEX +97.6%, ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DOW JONES + 57.3% S&P500 +69.6% และค่าเงิน DOLLAR INDEXที่อ่อนค่า 10.2% อาจมีผลให้ THAI BAHT แข็งค่า 15.3%