Wealth Sharing

หุ้นแบงก์ร่วง! หวั่นตั้งสำรองงบไตรมาส 3/67 โบรกฯ ชี้ EA จ่ายหนี้ได้ เหตุเงินสดแน่น


15 กรกฎาคม 2567
ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารวันนี้กดดันดัชนี หลังนักวิเคราะห์มองว่า เกือบทุกธนาคารน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เงินกู้ยืม EA แต่มอง EA ยังสามารถชำระดอกเบี้ยจากสถาบันการเงิน และผู้ถือหุ้นกู้ได้ โดยไตรมาส 1/67 EA มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยอยู่ 645 ล้านบาท ในขณะที่มีเงินสดอยู่ถึง 2.2 พันล้านบาท และมีกำไร 689 ล้านบาท

WS (เว็บ)_หุ้นแบงก์ร่วง! copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีนายสมโภชน์ อาหุนัย และ นายอมร ทรัพย์ทวีกุล ผู้บริหาร EA ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษกรณีร่วมกระทำการทุจริตจัดซื้ออุปกรณ์-โปรแกรมซอฟต์แวร์ ได้รับผลประโยชน์รวม 3,466 ล้านบาททำให้ EA และบริษัทย่อยเสียหายมองผลกระทบต่อบริษัท ทั้งความเชื่อมั่นบรรษัทภิบาลของหุ้นซึ่งมีโอกาสกระทบกองทุนที่ถือหุ้นใน EA 

อย่างไรก็ดี หุ้น EA ที่นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ลดลงกว่า 70.4% แล้ว รวมถึงหุ้นในกลุ่มเดียวกัน NEX (EA ถือหุ้น 33.1%) BYD (EA ถือหุ้น 19.6%) ที่ -60.4% และ -84.6% และปัจจุบันมีสัดส่วนรวมกันในตลาดราว 0.37% ของมูลค่าตลาด ทำให้มองผลกระทบความผันผวนหุ้นจำกัด

ทั้งนี้ ในผู้ถือหุ้นใหญ่ 17 อันดับแรกของ EA, NEX และ BYD อิงวันที่มีการปิดสมุดล่าสุด จาก www.settrade.com ไม่ปรากฏชื่อผู้ถือหุ้นประเภทกองทุนรวม
อย่างไรก็ตาม จุดน่ามีผลกระทบเชิงลบ คือ สิ่งที่เกี่ยวโยงกับเจ้าหนี้ทั้งฝั่งเงินกู้และหุ้นกู้ โดยปัจจุบัน EA มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยราว 6.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น

1) เงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 3.1 หมื่นล้านบาท จากการตรวจสอบกับธนาคารต่างๆ พบว่า น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องแทบทั้งหมด ยกเว้น KTB ที่ปฏิเสธชัดเจน ประเด็นนี้มีความเป็นไปได้ที่สถาบันการเงินจะตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเป็นค่าใช้จ่ายกดดันกำไรสุทธิในงบการเงิน ประเมินน่าจะเป็น Overhang กลุ่มธนาคารถึงงวดไตรมาส 3/67 (ออกงบต้น พ.ย.)

2) หุ้นกู้ 3.2 หมื่นล้านบาท ใกล้ครบกำหนดชาระ 1,500 ล้านบาท เดือน ส.ค. และ 4,000 ล้านบาทในเดือน ก.ย. บริษัทเตรียมออกขายหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อRoll over ในช่วง 23-25 ก.ค. นี้ คดีที่เกิดขึ้นกระทบความเชื่อมั่นทำให้หุ้นกู้ขายได้น้อยกว่าเป้า เสี่ยงต่อการผิดนัดชาระหนี้ (Default) ในอนาคต จะกระทบสภาพคล่องในตลาด นอกจากนี้ ระยะถัดไปมีโอกาสเกิดความเสี่ยงที่การออกหรือ Rollover หุ้นกู้ บจ.ตลาดที่ยากขึ้น จิตวิทยาลบหุ้นในกลุ่มหนี้สูง

3) ระดับความเชื่อมั่นต่อการกำกับดูแลตลาด ที่เป็นจิตวิทยาลบต่อภาพรวมตลาด 4) ผลกระทบจากการเรียกคืนสภาพคล่องบริษัทในกลุ่ม BYD จะกระทบต่อธุรกิจ Margin loan (*อาจส่งผลให้หลักทรัพย์ที่วางเป็นหลักประกันในบัญชีมาร์จิ้นผันผวนได้หากมีการบังคับขายหรือForce sell เกิดขึ้น) อิงงบการเงิน BYD สิ้นสุดไตรมาส 1/67 มีลูกหนี้หลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทั้งสิ้น 929.4 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบัน BYD ถือเป็นบริษัทที่มีฐานทุนสูง 1.17 หมื่นล้านบาท
เช่นเดียวกันกับนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้บริหารเกี่ยวกับการจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ

ประเด็นเกี่ยวกับสภาพคล่อง สำหรับหุ้นกู้ปีนี้ จะครบกำหนด 3 รุ่น 1,500 ล้านบาท ครบกำหนด 15 ส.ค.67 และ 4,000 ล้านบาท วันที่ 29 ก.ย.67  จากการระบุของ ThaiBMA มองว่าความกังวลยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากบริษัทยังไม่เคยขาดทุน และมีเงินสดในมือประมาณ 2,000 ล้านบาท รวมถึงคาดว่ายังมีเงินกู้ที่ยังไม่เบิกใช้อยู่ 

อย่างไรก็ตามยังขึ้นอยู่กับการเจรจาและความสามารถในการสร้างรายได้ของบริษัทด้วย โดยทางฝ่ายมองว่า ประเด็นนี้จะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการออกหุ้นกู้ใหม่ หากยังไม่มีการอธิบายถึงแหล่งที่มาของการชำระที่ชัดเจน

นอกจากนี้ จากงบการเงินของ EA ณ ไตรมาส 1/67 มีเงินกู้กับสถาบันการเงินรวม 3.1 หมื่นล้านบาท. ซึ่งจากงบการเงินของ EA มองว่า EA ยังสามารถชำระดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินรวมทั้งผู้ถือหุ้นกู้ได้ โดยไตรมาส 1/67 EA มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยอยู่ 645 ล้านบาท ในขณะที่มีเงินสดอยู่ถึง 2.2 พันล้านบาท และมีกำไร 689 ล้านบาท

แต่ความไม่แน่นอนอาจจะทำให้ธนาคารมีความจำเป็นที่จะต้องตั้งสำรองสินเชื่อที่ปล่อยให้กับ EA ไว้ก่อน โดยจากการตรวจสอบของทางฝ่ายมีชื่อ ADB EXIM Jaica TTB Mizuho และ SCB  เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้กับ EA และธนาคารอื่นยังไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งหากมีการตั้งสำรองน่าจะกระทบกับงบการเงินไตรมาส 3/67 ของธนาคารดังกล่าวได้

โดยรวมทางฝ่ายมองว่าอาจพิจารณารอการชี้แจงจากบริษัท โดยล่าสุด SET ได้ขึ้นเครื่องหมาย H (Halt) หยุดการซื้อขายในช่วงเช้า เพื่อรอให้บริษัทชี้แจงเกี่ยวกับหนี้สินที่ต้องชำระ และแหล่งที่มาหรือแผนการเงินที่ใช้
EA