Talk of The Town

EA ชี้แจงข้อมูลตามที่ ตลท.ถามแล้ว พร้อมมองหาพันธมิตรร่วมลงทุนเสริมแกร่ง ยืนยันบอร์ดชุดใหม่ นําบริษัทผ่านวิกฤตได้


16 กรกฎาคม 2567
EA แจงข้อมูลตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯสอบถาม ย้ำบริษัทยังมีรายได้จากโรงไฟฟ้าประมาณ 1,000 ล้านบาท ต่อเดือน ซึ่งเป็นกระแสเงินสดหลัก แถมยังอยู่ระหว่างการเจรจาและพิจารณาคัดเลือก Strategic Partner เข้ามาร่วมลงทุน สร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เพิ่มศักยภาพในการชําระหนี้ และ พัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว  

S2T (เว็บ) EA ชี้แจงข้อมูลตามที่ ตลท.ถามแล้ว_0.jpg

นายวุฒิเลิศ เจียรนิลกุลชัย กรรมการ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) ได้แจ้งต่อบริษัท ให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบฐานะทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากภาระหนี้สินโดยเฉพาะเงินกู้และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชําระภายในปี 2567 และแนวทางที่ชัดเจนในการชําระหนี้ดังกล่าว 

รวมทั้งผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของ บริษัทฯ สืบเนื่องจากการพ้นจากตำแหน่งของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารจากรณีการกล่าวโทษ โดยสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้นเครื่องหมาย “H” (Halt) จนกว่าบริษัทฯ จะแจ้งข้อมูลให้ครบถ้วนในการนี้ บริษัทฯ ขอชี้แจงประเด็นดังกล่าวดังนี้ 

1. ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567 บริษัทฯ มีหนี้สินเงินต้นที่จะครบกำหนดชําระภายในปี 2567 จำนวน 19,505 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดดังนี้

1.1 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบัน การเงินและตั๋วแลกเงินระยะสั้น จำนวนเงิน ณ 31 มี.ค.67 ที่ 8,354 ล้านบาท มีการจ่ายระหว่าง เดือน เม.ย.-มิ.ย.67 ที่ 210 ล้านบาท ส่งผลให้มียอดคงเหลือ โดยประมาณ 8,144 ล้านบาท (ชี้แจงเงินกู้ระยะสั้นเพิ่มเติม ทั้งนี้ ได้รวมตั๋วแลกเงินแล้ว)

1.2 เงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ ถึงกำหนดชําระภายใน 1 ปี จำนวน 5,659 ล้านบาท โดยมีการจ่ายระหว่าง เดือน เม.ย.-มิ.ย.67 ที่ 2,807 ล้านบาท ส่งผลให้มียอดคงเหลือ โดยประมาณ 2,852 ล้านบาท (ตามที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนหน้านี้ (ยอดรวมดอกเบี้ย แล้ว เท่ากับ 3,200 ล้านบาท)) 1.3 หุ้นกู้ ที่ถึงกำหนดชําระภายใน 1 ปี คงเหลือจำนวน 5,492 ล้านบาท  

ดังนั้นบริษัทจะมีหนี้สินรวม 19,505 ล้านบาท แต่มีการจ่ายระหว่าง เดือน เม.ย.-มิ.ย.67 จำนวน 3,017 ล้านบาท ส่งผลทำให้มีหนี้สินคงเหลือจำนวน 16,488 ล้านบาท โดยภายหลังเดือนมีนาคม 2567 ถึง ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังไม่มีการก่อภาระหนี้สินระยะยาวเพิ่มเติม

สำหรับภาระหนี้สินที่จะต้องชําระในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่บริษัทได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ไปก่อนหน้านั้นเป็น ในส่วนภาระการชําระหนี้ระยะยาวของบริษัทรวมทั้งหุ้นกู้ โดยพิจารณาจากการประมาณการเงินกู้ระยะยาวรวม ดอกเบี้ยที่ต้องชําระคืนประมาณ 3,200 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชําระอีก 5,500 ล้านบาท ซึ่งจะต้องดำเนินการชําระตั้งแต่วันที่ชี้แจงจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 

ทั้งนี้ส่วนที่เหลือเป็นวงเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบัน การเงินหลายแห่งซึ่ง ณ สิ้นไตรมาสที่หนึ่ง มีอยู่ที่ 8,354 ล้านบาท โดยเบื้องต้นบริษัทไม่ได้ชี้แจงเนื่องจากวงเงินกู้ระยะสั้นนั้นโดยปกติบริษัทจะทำการ Roll Over เงินกู้ระยะสั้นในส่วนนี้อยู่แล้ว

2.จากเดิมบริษัทมีความตั้งใจที่จะ Roll Over เงินกู้ระยะสั้นตามที่เคยปฏิบัติมาสำหรับเงินกู้ระยะสั้นทั้งหมด และมี แผนที่จะชําระเงินกู้และหุ้นกู้ระยะยาวที่จะครบกำหนดในปี 2567 ด้วย

1) กระแสเงินสดจากการดําเนินงานโดย ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการจำนวน 1,900 ล้านบาท และบริษัทจะมีรายได้ จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมทุกเดือนประมาณ 1,000 ล้านบาท 

2) วงเงินกู้ จากสถาบันการเงินวงเงินประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาขั้นสุดท้ายของสถาบันการเงิน 3) หุ้นกู้ที่จะออกเพิ่มเติมในปี 2567 จำนวนและวันเสนอขาย อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้รับประกันการจัด จําหน่าย โดยบริษัทคาดว่าจะเป็นหุ้นกู้อายุ 1 ปี และ 3 ปี 

อนึ่ง ณ เวลา 16:15 น. บริษัทได้รับการแจ้งข้อมูลจาก TRIS Rating ว่าบริษัทได้ถูกปรับลดระดับความน่าเชื่อถือ จาก BBB+ (Negative) เป็น BB+ (Negative) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน และหุ้นกู้ใหม่ ที่จะออกตามแผนเดิม 

อย่างไรก็ดีบริษัทขอเน้นย้ำว่าบริษัทยังมีรายได้จากโรงไฟฟ้าประมาณ 1,000 ล้านบาท ต่อเดือน ซึ่งเป็นกระแสเงินสดหลักให้กับบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาและพิจารณาคัดเลือก Strategic Partner(s) เข้ามาร่วมลงทุน สร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เพิ่มศักยภาพในการชําระหนี้ และ พัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว  

สำหรับผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัทฯ กรณีนายสมโภชน์ อาหุนัย (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร)  และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล (CFO) ซึ่งดูแลรับผิดชอบตำแหน่งบริหารสำคัญ พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวนั้น ไม่ส่งผล กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างมีนัยสําคัญ เนื่องจากคณะผู้บริหาร และทีมงานที่บริหารจัดการยังคงเป็นชุดเดิม 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้แต่งตั้งนายสมใจนึก เองตระกูล เข้าดำรงตำแหน่ง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และเป็นที่น่าเชื่อถือ สามารถสร้างความเชื่อมั่น ให้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ รวมถึงกำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์เพื่อนําบริษัทก้าวผ่านวิกฤตได้ 

สำหรับ นายวสุ กลมเกลี้ยง ในฐานะรักษาการ CFO เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการเงินการลงทุน และเป็นอดีต ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ มีประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างดี อีกทั้งมีศักยภาพ ทักษะความรู้ ความสามารถในการบริหารงานที่เกี่ยวข้อง และอยู่ในสายงานนี้มามากกว่า 10 ปี ทั้งนี้ หากบริษัทฯ มีความคืบหน้า เรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว จะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์รับทราบต่อไป
EA