Wealth Sharing

BBIK ได้งาน “ดิจิทัลวอลเล็ต” โบรกฯ ชี้ต่อยอดรับงานในอนาคต หนุนอัพไซด์ราคาพื้นฐาน


16 กรกฎาคม 2567
WS (เว็บ) BBIK ได้งาน “ดิจิทัลวอลเล็ต”_0.jpg

วานนี้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก และ X ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยยืนยันว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมเปิดลงทะเบียน 1 ส.ค.นี้ 


และจากความชัดเจนดังกล่าว จึงถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทุนและหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ก็ยังมีบริษัทจดทะเบียนได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติม อย่าง บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ได้คว้างานโครงการดังกล่าวมาไว้ในมือ

ทางด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า รัฐฯเปิดเผยผู้ชนะการเสนอราคาโครงการพัฒนา Digital Platform เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน

ส่วนที่ 1
คือ Digital Pleatform สำหรับอำนวยความสะดวกประชาชน (Government Super App) มี BBIK เป็นผู้ชนะ 

ส่วนที่ 2 คือ ส่วนที่พัฒนาเพื่อใช้ลงทะเบียนร้านค้า มี บ.เด็พธเฟิร์สท เป็นผู้ชนะ แม้โครงการดังกล่าวขนาดไม่ใหญ่ ส่วนที่ 1 มูลค่า 27.3 ล้านบาท (เทียบกับคาดการณ์รายได้ 2567 ของ BBIK ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22%) ส่วนที่ 2 มูลค่า 4.7 ล้านบาท 

แต่อย่างไรก็ดี มองว่าจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกโดยเฉพาะ BBIK ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยรับงานภาครัฐ ขณะที่การได้งานระบบกลางน่าจะมีโอกาสต่อยอดกับระบบเชื่อมต่อเข้ามาในอนาคตซึ่งจะเป็นอัพไซด์ในทางพื้นฐาน 

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองด้านพื้นฐานว่า การปิดงานของ BBIK ในปี 2567 แม้เพิ่งเข้าไตรมาส 3/67 แต่บริษัทสามารถทำได้ในระดับใกล้เคียงกับปี 2566 คาดจะเห็นงานในมือ (Backlog) ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

เพื่อสะท้อนภาพอุตสาหกรรม Digital Transformation สะดุดชั่วคราวจากภาวะเศรษฐกิจชะลอและงบประมาณภาครัฐล่าช้า กระทบให้ ภาคเอกชนเลือกที่จะชะลอการลงทุนด้าน Technology ออกไปก่อน แต่การชะลอทำได้ไม่นาน เนื่องจากเป็นขีดความสามารถในการแข่งขันที่ต้องเร่งพัฒนา

อย่างไรก็ดีภาพทั้งปี 2567 BBIK มีช่วงเวลาที่สะดุดในครึ่งปีแรกปี 67 ขณะที่ปัจจุบันงานจะเต็มมือและต้องเริ่ม Outsourcing บางส่วน แต่การเร่งปิดงานอาจไม่สามารถชดเชยครึ่งปีแรกปี 67 ได้ทั้งหมดเพราะลักษณะของธุรกิจบริการไม่สามารถเพิ่ม Capacity ได้ทันทีต้องใช้เวลา 

ดังนั้น จึงปรับลดประมาณการทั้งปี 2567 เป็น 287 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 4%) และปี 2568 คาดกำไรที่ 384 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 34%) หนุนจากการเข้ามาของ AI ทำให้งานด้านการให้คำปรึกษามีความต้องการเพิ่มเติมเนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่ต้องวางกลยุทธ์เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง และงานประมูลที่ฟื้นตัวในครึ่งปีหลังปี 67 จะไปส่งผลบวกต่อรายได้ในปี 2568 และผลบวกของการปรับปรุงองค์กรของ BBIK ตลอดปี 2567 ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน    

ทั้งนี้ ยังคง แนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมาแรงก่อนหน้าสะท้อนงบไตรมาส 2/67 ที่อ่อนแอไปแล้ว คาดหุ้นจะเข้าสู่รอบการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3/67 เป็นต้นไปตามแนวโน้มผลประกอบการ และการสะดุดในช่วงสั้นไม่ได้เปลี่ยนมุมมองการเติบโตกำไรได้ระดับ 30% ต่อปีในยุค Digital และ AI อย่างไรก็ดี ผลของการปรับลดประมาณการทำให้ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 46บาท