เรื่องเด่นวันนี้

SPREME เปิดแผนครึ่งปีหลัง ดันรายได้ปี 67 โต 15% ตามนัด ลุยประมูลงานภาครัฐ มากกว่า 1.3 พันลบ. ทุนหนา-ไร้หนี้


16 กรกฎาคม 2567

บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (SPREME) เปิดแผนและกลยุทธ์ครึ่งหลังปี 67 เดินหน้าร่วมประมูลโปรเจคภาครัฐมูลค่า 1.3 พันล้านบาท เสริม Backlog ที่มีกว่า 550 ล้านบาท ฟากซีอีโอ “ภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล” มั่นใจรายได้ปี 67 เติบโต 15% ตามเป้าหมาย ยันฐานะการเงินแข็งแกร่ง-ไร้หนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย

ข่าวลูกค้า SPREME เปิดแผนครึ่งปีหลัง ดันรายได.jpg

นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) (SPREME) เปิดเผยว่า แผนและกลยุทธ์การดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการให้บริการแบบ One Stop Service ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร โดยเน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิม และมองหาโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ โดยเน้นการสร้าง Brand Awareness สินค้ามีคุณภาพ ราคาสามารถแข่งขันได้

“ในช่วงครึ่งปีหลังเราเตรียมเข้าร่วมประมูลงานโครงการภาครัฐมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่เรามีความเชี่ยวชาญและได้รับงานประมูลอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ที่ผ่านมา และมีโอกาสได้งานมากกว่า 60-70% เพื่อเข้ามาเติม Backlog ที่มีอยู่ประมาณ 550 ล้านบาท มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันรายได้ในปีนี้เติบโต 15% ตามเป้าหมาย”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPREME กล่าวอีกว่า หลังการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น และมุ่งมั่นเป็นผู้นำธุรกิจ System Integrator ที่เติบโตอย่างมั่นคง มีความพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการเมกะโปรเจคมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ที่คาดว่าจะเปิดประมูลในช่วงปลายปีนี้ อีกทั้งยังมีฐานะการเงินและกระแสเงินสดแข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ประมาณ 0.96 เท่า ไม่มีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ยังพร้อมเดินหน้าลงทุนซื้อกิจการ (M&A) เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม เพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต โดยอยู่ระหว่างการเจรจา โดยเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ System Integrator ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และยังรวมถึงธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เป็นธุรกิจเมกะเทรนด์ รองรับแผนเข้ารุกตลาดประมูลงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และงานประมูลภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety) ซึ่งจะช่วยผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต