Wealth Sharing
โบรกฯ กลับลำ เชียร์ “ซื้อ” DELTA อัพเกรดเป้าเป็น 115 บาท หลังเข้าสู่ซัพพลายเชนของ NVIDIA
16 กรกฎาคม 2567
ราคาหุ้นบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ในวันนี้ (16 ก.ค.67) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ล่าสุดนักวิเคราะห์ ปรับเพิ่มคำแนะนำ DELTA เป็น “ซื้อ” จากเดิม ขาย และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 115 บาท (จาก 60 บาท)
นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เห็นปัจจัยหลักผลักดัน 2 ประการสำหรับ DELTA กล่าวคือ การเข้าสู่ซัพพลายเชนของ NVIDIA และคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจากบริษัทแม่ท่ามกลางความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในไต้หวันซึ่งบริษัทแม่ตั้งอยู่ จึงปรับเพิ่มคำแนะนำ DELTA เป็น “ซื้อ”
โดยปรับเพิ่มคำแนะนำ DELTA เป็น “ซื้อ” (จาก ขาย) ด้วยเห็นปัจจัยหลักผลักดัน 2 ประการสำหรับบริษัทฯ โดยปรับกำไรของของฝ่ายวิจัยขึ้น 8/43/60% ในปี 67-69F และปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปีฐาน 68 เป็น 115 บาท (จาก 60 บาท)
1) DELTA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Delta Group กำลังอยู่ในเทรนด์ AI ที่กำลังเติบโต บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการได้งานบางส่วนจาก NVIDIA ผู้ผลิตอุปกรณ์ AI ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
2) คาดว่า DELTA จะได้ประโยชน์จากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในไต้หวันซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทแม่ผ่านคำสั่งซื้อไปยัง DELTA ประเทศไทยที่มากขึ้น 3) ฝ่ายวิจัยชอบที่ DELTA มาถูกทางด้วยมีผลิตภัณฑ์ ได้แก่ data centers, AI และ EV
และ 4) เชื่อว่า การซื้อขายที่ PE ที่สูงนั้นสมเหตุสมผลในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก และอยู่ในอุตสาหกรรมที่เป็นกระแส และมีการเติบโตของ EPS ที่แข็งแกร่ง และยั่งยืนด้วยเติบโตเฉลี่ย 3 ปีถึงปี 69F ที่ 31% และเฉลี่ย 5 ปี ถึงปี 71 ที่ 29%
สำหรับการนำ AI มาใช้ใน data centers กำลังผลักดันความต้องการอุปกรณ์การจัดการพลังงานมากขึ้น การจัดการพลังงานคิดเป็น 48% ของ EBIT ของบริษัทฯ DELTA ได้ผ่านขั้นตอนการทดลองใช้งานเพื่อสร้าง 2 อุปกรณ์ใหม่
ได้แก่ การจัดการพลังงาน และระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ สำหรับ GPU ใหม่ของ NVIDIA ซึ่งเป็น chip module ที่สำคัญสำหรับการประมวลผลข้อมูลอย่างต่อเนื่องใน data centers บริษัทฯ คาดว่าจะผลิตอุปกรณ์ทั้งสองนี้สำหรับ NVIDIA ในครึ่งหลังปี 67 ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมจากการทำงานแบบเดิมใน non-AI data centers DELTA คาดว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะมีสัดส่วน 10% ของยอดขายในปีนี้
อีกทั้งฝ่ายวิจัยคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ในปี 70 ด้วย EBIT Margin ที่มากกว่า 20% เทียบกับค่าเฉลี่ยของ DELTA ที่ 12% รวมทั้งคาดว่าผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับ AI เหล่านี้จะคิดเป็น 27% ของ EBIT ของ DELTA ในปี 70 โดยให้มูลค่า AI ที่ 36 บาท ในราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัย
ขณะเดียวกันได้ประโยชน์จากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยลูกค้ารายใหญ่ในสหรัฐฯ ของ Delta Group เลือกที่จะย้ายคำสั่งซื้อบางส่วนมายังประเทศไทย ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเกี่ยวกับไต้หวันที่ทวีความรุนแรงขึ้น DELTA กำลังขยายกำลังการผลิตในประเทศไทยราว 20% ในปี 68-69 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ งานที่มีอยู่เดิม – non-AI data centers และงานใหม่ – ระบบ AI ระบายความร้อน เราคาดว่าคำสั่งซื้อเพิ่มเติมของไทยจะอยู่ที่ 8% ต่อปี ในปี 67-70
ส่วนรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ EV เพิ่มขึ้นจาก 10% ของยอดขายในปี 62 เป็น 30% ในปี 66 ยอดขายกลุ่ม EV ลดลง 18% ในไตรมาส 1/67 เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ได้ขจัดสต๊อกสินค้าคงคลัง แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงความต้องการรถยนต์ของโลกไปสู่รถยนต์ไฟฟ้ายังคงดำเนินอยู่ต่อเนื่อง
ดังนั้นยอดขายที่ลดลงจึงเป็นเพียงปัจจัยลบเพียงช่วงสั้น คำสั่งซื้อกลับมาในไตรมาส 2/67 ด้วยเติบโต 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 2% จากไตรมาสก่อน จึงคาดว่ายอดขายกลุ่ม EV จะเติบโต 20% ต่อปี ในปี 67-70
นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เห็นปัจจัยหลักผลักดัน 2 ประการสำหรับ DELTA กล่าวคือ การเข้าสู่ซัพพลายเชนของ NVIDIA และคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจากบริษัทแม่ท่ามกลางความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในไต้หวันซึ่งบริษัทแม่ตั้งอยู่ จึงปรับเพิ่มคำแนะนำ DELTA เป็น “ซื้อ”
โดยปรับเพิ่มคำแนะนำ DELTA เป็น “ซื้อ” (จาก ขาย) ด้วยเห็นปัจจัยหลักผลักดัน 2 ประการสำหรับบริษัทฯ โดยปรับกำไรของของฝ่ายวิจัยขึ้น 8/43/60% ในปี 67-69F และปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปีฐาน 68 เป็น 115 บาท (จาก 60 บาท)
1) DELTA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Delta Group กำลังอยู่ในเทรนด์ AI ที่กำลังเติบโต บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการได้งานบางส่วนจาก NVIDIA ผู้ผลิตอุปกรณ์ AI ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
2) คาดว่า DELTA จะได้ประโยชน์จากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในไต้หวันซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทแม่ผ่านคำสั่งซื้อไปยัง DELTA ประเทศไทยที่มากขึ้น 3) ฝ่ายวิจัยชอบที่ DELTA มาถูกทางด้วยมีผลิตภัณฑ์ ได้แก่ data centers, AI และ EV
และ 4) เชื่อว่า การซื้อขายที่ PE ที่สูงนั้นสมเหตุสมผลในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก และอยู่ในอุตสาหกรรมที่เป็นกระแส และมีการเติบโตของ EPS ที่แข็งแกร่ง และยั่งยืนด้วยเติบโตเฉลี่ย 3 ปีถึงปี 69F ที่ 31% และเฉลี่ย 5 ปี ถึงปี 71 ที่ 29%
สำหรับการนำ AI มาใช้ใน data centers กำลังผลักดันความต้องการอุปกรณ์การจัดการพลังงานมากขึ้น การจัดการพลังงานคิดเป็น 48% ของ EBIT ของบริษัทฯ DELTA ได้ผ่านขั้นตอนการทดลองใช้งานเพื่อสร้าง 2 อุปกรณ์ใหม่
ได้แก่ การจัดการพลังงาน และระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ สำหรับ GPU ใหม่ของ NVIDIA ซึ่งเป็น chip module ที่สำคัญสำหรับการประมวลผลข้อมูลอย่างต่อเนื่องใน data centers บริษัทฯ คาดว่าจะผลิตอุปกรณ์ทั้งสองนี้สำหรับ NVIDIA ในครึ่งหลังปี 67 ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมจากการทำงานแบบเดิมใน non-AI data centers DELTA คาดว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะมีสัดส่วน 10% ของยอดขายในปีนี้
อีกทั้งฝ่ายวิจัยคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ในปี 70 ด้วย EBIT Margin ที่มากกว่า 20% เทียบกับค่าเฉลี่ยของ DELTA ที่ 12% รวมทั้งคาดว่าผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับ AI เหล่านี้จะคิดเป็น 27% ของ EBIT ของ DELTA ในปี 70 โดยให้มูลค่า AI ที่ 36 บาท ในราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัย
ขณะเดียวกันได้ประโยชน์จากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยลูกค้ารายใหญ่ในสหรัฐฯ ของ Delta Group เลือกที่จะย้ายคำสั่งซื้อบางส่วนมายังประเทศไทย ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเกี่ยวกับไต้หวันที่ทวีความรุนแรงขึ้น DELTA กำลังขยายกำลังการผลิตในประเทศไทยราว 20% ในปี 68-69 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ งานที่มีอยู่เดิม – non-AI data centers และงานใหม่ – ระบบ AI ระบายความร้อน เราคาดว่าคำสั่งซื้อเพิ่มเติมของไทยจะอยู่ที่ 8% ต่อปี ในปี 67-70
ส่วนรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ EV เพิ่มขึ้นจาก 10% ของยอดขายในปี 62 เป็น 30% ในปี 66 ยอดขายกลุ่ม EV ลดลง 18% ในไตรมาส 1/67 เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ได้ขจัดสต๊อกสินค้าคงคลัง แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงความต้องการรถยนต์ของโลกไปสู่รถยนต์ไฟฟ้ายังคงดำเนินอยู่ต่อเนื่อง
ดังนั้นยอดขายที่ลดลงจึงเป็นเพียงปัจจัยลบเพียงช่วงสั้น คำสั่งซื้อกลับมาในไตรมาส 2/67 ด้วยเติบโต 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 2% จากไตรมาสก่อน จึงคาดว่ายอดขายกลุ่ม EV จะเติบโต 20% ต่อปี ในปี 67-70