‘ทริพเพิล ไอฯ’ มั่นใจผลการดำเนินงานปี 67 เติบโตตามแผน รับอานิสงส์ค่าระวางพุ่ง-ดีมานด์ทะลักจาก E-Commerce จีน
‘บมจ.ทริพเพิล ไอ’ หรือ III มั่นใจผลการดำเนินงานปี 2567 เติบโตได้ดีตามแผนยุทธศาสตร์มุ่งผนึกกำลังเชื่อมโยงทั้งธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่จากพันธมิตรขับเคลื่อนการเติบโตตามเป้าหมาย 15% จากปีก่อน เตรียมรับปัจจัยบวกในครึ่งปีหลังแบบ 2 เด้งทั้งจากการเข้าสู่ไฮซีซั่นและค่าระวางทางอากาศที่ทยอยปรับขึ้นซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความกังวลปัญหาทะเลแดง และความเสี่ยงจากตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน รวมทั้งความต้องการขนส่งสินค้า E-Commerce จากจีนเพิ่มสูงขึ้น
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III ผู้ให้บริการโล
จิสติกส์ชั้นนำระดับภูมิภาค เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตดี โดยวางเป้าหมายเติบโต 15% จากปีก่อน จากพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ Logistics and Beyond ที่มุ่งสร้าง Synergy เชื่อมโยงทั้งธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่จากพันธมิตรขับเคลื่อนการเติบโต สะท้อนจากความสำเร็จของในการเข้าลงทุนบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจตัวแทนขายและบริหารพื้นที่ขนส่งสินค้าทางสายการบิน (GSA) ในระดับภูมิภาค ที่เตรียมขยายการให้บริการอีก 3 ประเทศเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ อินเดีย เกาหลี และญี่ปุ่น
จากปัจจุบันที่ให้บริการ 8 ประเทศ รวม 22 สายการบิน ขณะที่บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ที่บริษัทฯ ลงทุนผ่าน บริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) หรือ SAL ล่าสุดเริ่มเปิดให้บริการคลังสินค้ารองรับการขนส่งหลายรูปแบบหรือ Multimodal Warehouse บนพื้นที่ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า (โซน 3) ในเขตปลอดอากรของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดย AOTGA ยังเตรียมยื่นประมูลเพื่อคัดเลือกผู้ให้บริการภาคพื้นดินของสนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 ในเร็วๆนี้
ขณะเดียวกัน แนวโน้มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก จากการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนและเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ รวมถึงค่าระวางเรือที่ปรับสูงขึ้นจากความกังวลเหตุความขัดแย้งในทะเลแดง และความเสี่ยงด้านการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งสินค้า E-Commerce จากจีนมาผ่านไทยไปประเทศต่างๆ มีความต้องการสูงมาก จึงมีส่วนผลักดันให้ค่าระวางทางอากาศ (Air Freight) เริ่มปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งเราคือผู้ให้บริการชั้นนำที่มีความชำนาญด้านการขนส่งทางอากาศแบบครบวงจร ทำให้ในภาพรวมจะได้รับปัจจัยบวกไม่ว่าจะเป็นธุรกิจตัวแทนสายการบินในการบริหารและขายพื้นที่ระวางสินค้า ธุรกิจการเป็นผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศ รวมถึงการให้บริการภาคพื้นท่าอากาศยาน และล่าสุดจากการที่มีการใช้บริการด้านการขนส่งทางอากาศอย่างหนาแน่นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้มีการเลือกไปใช้บริการเพิ่มขึ้นที่สนามบินภูเก็ต ส่งผลให้บริษัทลูกของเราที่ให้บริการด้านการขนส่งทางอากาศอย่าง บริษัท ทริพเพิล ไอ แอร์ เอ็กซ์เพรส มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในครึ่งปีหลัง เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่ใช้บริการ Transit ผ่านสนามบินภูเก็ตจำนวนมาก