Wealth Sharing

ดีลปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ GULF+INTUCH รวมกันมีแต่เรื่องดี โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” GULF แปลงเป็น NewCo คุ้ม!


17 กรกฎาคม 2567
แก้ไข WS (เว็บ) ดีลปรับโครงสร้างครั้งใหญ่เเก้.jpg

เรื่องราวบิ๊กดีลในตลาดหุ้นเกิดขึ้นอีกแล้ว ล่าสุดบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือGULF และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ประกาศควบรวมกิจการ


การควบบริษัทระหว่าง GULF และ INTUCH และจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ (NewCo) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยในการควบรวมบริษัท จะมีอัตราการจัดสรรหุ้นใน NewCo ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ GULF และ INTUCH คือ 1 หุ้น GULF ต่อ 1.02974 หุ้นใน NewCo และ 1 หุ้น INTUCH ต่อ 1.69335 หุ้นใน NewCo (ไม่รวมหุ้น 47.37% ใน INTUCH ที่ถือโดย GULF เนื่องจากได้รับการจัดสรรโดยตรงให้แก่ผู้ถือหุ้น GULF)

ภายหลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และก่อนการควบรวมบริษัท จะมีการทำคำเสนอซื้อในช่วงเวลาประมาณ ไตรมาสที่ 4 ปี 2567 - ไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ซึ่งประกอบด้วย 

การทำคำเสนอซื้อหุ้น 36.25% ในหุ้นสามัญของบริษัท ADVANC โดย GULF, INTUCH และ Singtel Strategic Investments Pte. Ltd. (SSI) และนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ที่ราคา 216.3 บาท/หุ้น เป็นมูลค่ารวมประมาณ 116,601 ล้านบาท 

และการทำคำเสนอซื้อหุ้น 58.86% ในหุ้นสามัญของบริษัท THCOM โดย GULF, บริษัท กัลฟ์ เอดจ์ จำกัด (บริษัทย่อยของ GULF), INTUCH และนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ที่ราคา 11.0 บาท/หุ้น เป็นมูลค่ารวมประมาณ 6,976 ล้านบาท

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัท INTUCH พิจารณาในหลักการที่จะจ่ายเงินปันผลพิเศษจากกำไรสะสมของบริษัท จำนวน 4.5 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่า วันกำหนดสิทธิและการจ่ายเงินปันผลพิเศษ จะเกิดขึ้นภายหลังสิ้นสุดการรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน และก่อนธุรกรรมการควบบริษัทจะเสร็จสิ้น

จากดีลใหญ่ในครั้งนี้ของ GULF และ INTUCH นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองราคาตลาดตอนนี้... ซื้อ GULF ไปแปลงเป็น NewCo คุ้มกว่า INTUCH 

Swap Ratio ที่ประกาศอย่างเป็นทางการระหว่าง INTUCH ต่อ GULF อยู่ที่ 1.69335 / 1.02974 หรือ 1.644  ขณะที่ราคา INTUCH วานนี้อยู่ที่ 76.25 บาท หากหักด้วยปันผลพิเศษที่จะจ่ายในช่วงไตรมาส 1/68 ที่ 4.50 บาท ต่อหุ้นจะอยู่ที่ 71.75 บาทต่อหุ้น เทียบกับราคาปิด GULF ที่ 42.25 บาท จะคิดเป็น Ratio ที่ 1.698 สะท้อน ว่าซื้อหุ้น GULF ไปแปลงเป็น New Co ได้เปรียบกว่าซื้อ INTUCH ไปแปลงราว 3.4% ไม่รวมเงินปันผลที่จ่ายออกมาเพิ่มเติมจากผลประกอบการปกติของ INTUCH

โดยการที่ GULF มาถือ ADVANC โดยตรงจะทำให้ Discount Holding ที่เคยมีในอดีตผ่านการต้องถือผ่าน INTUCH หายไป และทำให้การบริหารจัดการ ADVANC ทำได้โดยตรง มีโอกาสที่จะเพิ่มความคล่องตัวในการกำหนดนโยบายสำคัญ เช่น การปรับเพิ่ม Payout Ratio การขายสินทรัพย์เข้ากองทุนในอนาคต และ อื่นๆ เป็นต้น 

ขณะที่ INTUCH ได้โอกาสไปเติบโตในธุรกิจอื่นๆ ที่มีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัท มองหามาเป็นเวลานาน ดังนั้นสุทธิแล้วผลกระทบระยะยาวของ NewCo จะขึ้นกับว่า NewCo จะสามารถสร้างประโยชน์เพิ่มเติมให้กับผู้ถือหุ้นผ่าน Structure ใหม่ได้มากน้อยขนาดไหน เป็นประเด็นที่ต้องติดตามเพิ่มเติมจากการชี้แจงของ ผู้บริหาร ส่วน THCOM มองไม่มีผลกระทบ ราคาเสนอซื้อ ใกล้เคียงราคากระดาน

ดังนั้นเชิงพื้นฐาน คงแนะนำ “ซื้อ” GULF ที่ราคาเหมาะสม 52.75 บาทต่อหุ้น, INTUCH ที่ราคาเหมาะสม 83.00 บาทต่อหุ้น และ ADVANC ที่ 245.00 บาทต่อหุ้น  

เชิงกลยุทธ์คาด GULF จะปรับขึ้นชดเชยส่วนต่าง 3% ของการซื้อ GULF ไปแปลงที่ดีกว่า INTUCH ในระยะถัดไปคาดหุ้นจะมีการเก็งกำไรระหว่างกันโดยอิง Swap Ratio เพื่อหาตัวที่คุ้มค่าในการไปแปลงเป็น New Co คาดตลาดจะให้น้ำหนักเชิงบวกกับ New Co จากความคล่องตัวในการบริหารจัดการ ADVANC ที่มากขึ้น

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ประเมิน มองแผนการควบรวมนี้เป็นบวกต่อ GULF เพราะจะได้สัดส่วนในธุรกิจโทรคมนาคมที่มี ROE สูงกว่า เพิ่มขึ้น ในขณะที่ฐานทุนที่ใหญ่ขึ้นหลังการควบรวมจะช่วยเสริมศักยภาพของบริษัทในการหาโอกาสธุรกิจใหม่ในอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ซึ่งดูจะอยู่ในช่วงที่ต้องการเงินลงทุนมาก

และจากการที่มองว่าสัดส่วนการจัดสรรหุ้นถูกกำหนดมาบนราคาตลาดปัจจุบันของหุ้นGULF และ INTUCH (อิงราคาวันที 16 ก.ค. 67) ผู้ถือหุ้น GULF ดูจะได้เปรียบมากกว่าจากสัดส่วนนี้เนื่องจากปัจจุบันหุ้น GULF ซื้อขายที่มูลค่าพื้นฐาน (PE) สูงเทียบกับราคาหุ้น INTUCH ที่อยู่ใกล้เคียงมูลค่า NAV ของการลงทุนรวมของบริษัท

โดยเชื่อว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานของ ADVANC และ THCOM เนื่องจากมองว่า GULF มีอำนาจการควบคุมในบริษัททั้งสองอยู่แต่เดิมก่อนการควบรวมแล้ว ในขณะที่ Singtel ก็น่าจะยังเป็นผู้ถือหุ้นที่อาจไม่ได้กำหนดนโยบายหลักมากนัก แต่เน้นให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและเทคโนโลยี