จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : BKGI ผู้นำการแพทย์จีโนมิกส์ (Genomics) อนาคตสดใสตอบรับกระแสการดูแลสุขภาพ


18 กรกฎาคม 2567
นับเป็นเวลา 4 เดือนหลังการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์(ตลท.)ของบมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI) ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องทั้งราคาหุ้นและผลการดำเนินงานที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น  

รายงานพิเศษ BKGI ผู้นำการแพทย์จีโนมิกส์ (Genomics).jpg

ซึ่งแนวโน้มธุรกิจช่วงที่เหลือของปีนี้ “กิตติคุณ รอดรังนก” ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน BKGI  เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับโรงพยาบาลรัฐ และเอกชนหลายราย เพื่อขยายการบริการที่เกี่ยวข้องภายใต้การบริการเดิม หรืออาจมีการพัฒนาการบริการด้านการแพทย์ใหม่ๆ โดยคาดว่า จะเริ่มทยอยประกาศการลงนามสัญญาความร่วมมือกันในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป 

นอกจากนี้ บริษัทฯยังการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าไปควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของบริษัทเพิ่มเติม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 67 หลังบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ทำให้มีความพร้อมทั้งฐานทุนที่แข็งแกร่ง 

รองรับกับศักยภาพและการเติบโตทางธุรกิจ ผ่านศาสตร์การแพทย์จีโนมิกส์ (Genomics)  ซึ่งมี BGI ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ให้การสนับสนุนถ่ายทอดเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ให้กับ BKGI ในฐานะ Flagship รองรับแผนขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งในปี 67 ตั้งเป้ารายได้โตเกิน 30% จากปีก่อน

ขณะเดียวกันบล.กรุงศรี ได้วิเคราะห์หุ้น BKGI  โดยแนะนำ Buy  และคงราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 2.50 บาท วิธี DCF WACC 10% L-T growth 3% คิดเป็น Imply PE ปี 67 ที่ 29 เท่าเทียบเท่าค่าเฉลี่ย PE ปี 67 ของกลุ่มรพ.ที่ศึกษาและกลุ่มผู้ให้บริการ IVF (GFC,SAFE) เนื่องจาก

1) ไม่พบปัจจัย ลบใหม่ต่อประมาณการกำไรสุทธิ

2) บริษัทยังน่าสนใจจากมีข้อได้เปรียบเทคโนโลยี Next-Generation Sequencing (NGS) ที่ทันสมัยจากกลุ่ม BGI (ถือหุ้น 37.4%) สำหรับให้บริการคัดกรองพันธุกรรมครอบคลุมทุกช่วงอายุตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์จนถึงกลุ่มผู้สูงอายุ ทำให้มีโอกาสเติบโตจากการขยายฐานลูกค้าเปิดกว้าง  

3) ศักยภาพห้องปฎิบัติการรองรับการเติบโตระยะยาว นอกจากนี้ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย PE ปี 67 ที่ 26 เท่าเทียบเท่า 0.8 เท่า PEG (คาดปี 67-69 กำไรสุทธิเติบโต 33%CAGR)

คงเป้าหมายปีนี้รายได้เติบโตกว่า 40% จากปีก่อน ผู้บริหาร BKGI ระบุ ปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวม 360 ลบ. เติบโตราว 45% จากปีก่อน มีปัจจัยบวก 

1. ความพร้อมของห้องปฎิบัติการสามารถให้บริการสูงสุดจำนวน 11 ล้านตัวอย่างต่อปี 
2. การขยายตลาลูกค้าใหม่ภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้เราไม่พบปัจจัยบวกและลบใหม่ที่จะส่งผลต่อประมาณการกำไรสุทธิบริษัท โดยปีนี้เราคาดว่ารายได้รวม 351 ลบ. (+43% จากปีก่อน) เติบโตจากการให้บริการคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมด้านอนามัยเจริญพันธุ์ ซึ่งเป็นบริการหลัก (สัดส่วนรายได้กว่า 70%) จากจำนวนตัวอย่างเพิ่มขึ้นทั้งประเภท NIPT (คัดกรองความผิดปกติของโครโมโซทารกในครรภ์) และเพิ่มบริการประเภท PGTA (ตรวจพันธุ์กรรมของตัวอ่อน) ประกอบกับการเข้าร่วมให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งสิทธิ สปสช จะเพิ่มโอกาสเติบโตจากบริการตรวจคัดกรองทางการแพทย์ รวมทั้งขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำของการดูแล/รักษาสุขภาพ

ผู้บริหารระบุ การขายเครื่องตรวจ (NIPT, PGTA) และน้ำยาตรวจให้กับลูกค้าภาครัฐและเอกชน มีความคืบหน้าต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2-3/67 บริษัทมีโอกาสขายเครื่องตรวจและน้ำยาตรวจให้กับลูกค้าใหม่อีก 2-3ราย (vs 1Q24ขายเครื่องตรวจให้ลูกค้า 1ราย) ทำให้การเติบโตของรายได้ใน ไตรมาส 2/67 และไตรมาส 3/67

มีปัจจัยหนุนจากการขายเครื่องช่วยเสริมการเติบโตจากรายได้ให้บริการตรวจคัดกรอง ส่วนรายได้ขายน้ำยาถือเป็นรายได้ต่อเนื่อง (Recurring revenue) ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังจากการขายเครื่องสำเร็จโดยปีนี้บริษัทมีเป้าหมายขายเครื่องตรวจจำนวน 5-6 เครื่อง

คาดกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 33%CAGR 67-69 จากเพิ่มบริการและขยายลูกค้าใหม่ คงประมาณการปี 67 คาดกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท เติบโต 59% จากปีก่อน ส่วนปี 68-69 คาดกำไรสุทธิ 66 ล้านบาท และ 76 ล้านบาท ตามลำดับ หรือมีกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 33% CAGR ปี 67-69 เนื่องจาก

1) คาดว่ารายได้รวม (+25%CAGR) เติบโตจากจำนวนตัวอย่างในการตรวจเพิ่มขึ้นตามการขยายฐานลูกค้าใหม่
2) คาดมี % Gross margin รวม 43.7% ในปี 67 และมีแนวโน้มดีขึ้นเป็น 44.6% ในปี 69 จากผลบวก Economies of scale ของจำนวนตัวอย่างเพิ่มขึ้น
3) คาดค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้มีสัดส่วน 28.8% และ 28.4% ในปี 67-69