จับประเด็นหุ้นเด่น

สัมภาษณ์พิเศษ : เจาะลึกกลยุทธ์ PSP ขยายตลาดสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน


19 กรกฎาคม 2567

เปิดใจ “เสกสรร ครองพาณิชย์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้บริหาร บมจ.พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ (PSP) ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์หล่อลื่นครบวงจรของไทย  เจาะลึกแนวทางการธุรกิจ  เป้าหมายและวิธีการสร้างการเติบโตให้กับบริษัท

สัมภาษณ์พิเศษ PSP copy.jpg

ภาพรวมธุรกิจของ PSP

PSP เราเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่นครบวงจร  เราทำตั้งแต่ การนำเข้าวัตถุดิบ   ผลิต  จัดเก็บ และส่งให้ลูกค้า  

โดยผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็น  4 กลุ่ม 

  1. ผลิตภัณฑ์ หล่อลื่นสำหรับยานยนต์ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก และผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในอุตสาหกรรมที่มีการเสียดสีกัน

  2. จารบี

  3. น้ำมันผสมยางรถยนต์ ใช้ในการขึ้นรูป

  4. น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นตัวระบายความร้อนในหม้อแปลงป้องกันการระเบิด

บริษัทในเครือของ PSP มี 6 กลุ่ม ได้แก่

  1. บริษัททำเรื่องTrading

  2. บริษัทที่ทำเกี่ยวกับการขนส่ง

  3. เป็นโรงผลิต ผลิตภัณฑ์หล่อลื่น

  4. เป็นบริษัทที่ร่วมทุนกับชาวพม่าชื่อบริษัท PPS ตั้งในนิคมติละวา เป็นโรงผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่น

  5. เป็นบริษัทร่วมทุนกับสิงคโปร์เป็น แพลตฟอร์ม ที่ขายเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์

  6. ล่าสุดที่ลงทุนเป็นจีเนียส DNA เป็นที่ตรวจ DNA

การผันผวนของเงินบาทกระทบธุรกิจ PSP หรือไม่

บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนนมาก  เพราะเรามีทั้งการนำเข้าและส่งออกเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ

โครงสร้างรายได้ของ PSP

PSP เดิมสร้างรายได้ประมาณ 80%  โดยมาจากน้ำมันหล่อลื่นประมาณ 50-60%  , มาจากกลุ่มจารบี  น้ำมันผสมยาง และหม้อแปลงไฟฟ้าประมาณ 20% , กลุ่มทำเทรดดิ้ง ประมาณ 20% ที่เหลือมาจากบริษัทในเครือโลจิสติกส์ ประมาณ  5-10% 

เป้าหมายผลประกอบการปี 2567

ปีนี้เป็นปีที่ดี  ครึ่งปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวดีขึ้นจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี  การผลิตมีแนวโน้มที่ดี  ส่งผลต่อสินค้าของบริษัทที่ขายได้ดีขึ้น  คิดว่าปีนี้ ตั้งเป้าเติบโต 10-20% 

การเติบโตของรถยนต์ EV ไม่กระทบธุรกิจ

ถ้าพูดถึงรถ EV มี 3 แบบ  ได้แก่  รถไฮบริด   รถปลั้กอินไฮบริด  และรถEV ซึ่งทั้ง 2 แบบรถไฮบริดและรถปลั้กอินไฮบริด  ยังใช้น้ำมันเครื่องเป็นองค์ประกอบ  แต่สำหรับรถEVจะไม่ใช่น้ำมันเครื่อง แต่ยังมีน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก  และจารบี  ส่วนแบตเตอรียังต้องมีตัวหล่อเย็นทำให้ยังต้องใช้สินค้าของเรา

และหากดูยอดจดทะเบียนที่กรมขนส่งในไตรมาสแรก มีจำนวน 45 ล้านคัน แต่มีรถEV จดทะเบียนแค่ 1 แสนคัน ซึ่งถือว่าไม่มาก  ทำให้ธุรกิจเรายังไม่ถูกดิสรับจากกระแสความนิยมรถ EV   ขณะเดียวกันบริษัทก็มีการศึกษาผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้ในรถEV เพื่อรองรับตลาดที่จะขยายตัวขึ้นในอนาคต 

กลยุทธ์ของ PSP ในปีนี้

หลักๆเรายัง Focus ที่การเป็นผู้นำในประเทศไทย และFocus การเติบโตในต่างประเทศ เพราะตลาดต่างประเทศยังมีดีมานด์ที่มหาศาล  โดยในSouth Ease Asian  มีความต้องการอยู่ที่ 4,000 ล้านลิตร ขณะที่PSP ส่งไปแค่ 30 ล้านลิตร  จึงยังมีพื้นที่ในการขยายตัวอีกมาก

จุดแข็งของ PSP

หลักคือ 1. สถานที่ตั้ง เพราะบริษัทตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร  ใกล้แม่น้ำท่าจีน และยังมีท่าเรือเป็นของตัวเองทำให้การขนส่งวัตถุดิบของบริษัทมีต้นทุนที่ถูกลง

2.คุณภาพ บริษัทมี แผนกR&D ของตัวเอง และมี QC เป็นของตัวเอง ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และลูกค้าทำธุรกิจกับPSPเป็นเวลานาน

3. เรามีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

สาเหตุที่เข้าลงทุนใน Geneus DNA

บริษัทฯได้ลงทุนและถือหุ้นสัดส่วน 25% ในบริษัท จีเนียส เจเนติกส์ จำกัด หรือ GeneusDNA  ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการตรวจวิเคราะห์สุขภาพและพรสวรรค์ด้วย DNA

ซึ่งการเข้าลงทุนใน GeneusDNA เป็นไปตามแผนการขยายสู่ธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง (New S-curve) ซึ่ง GeneusDNA เป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการแปลผลจากชุดตรวจ DNA เป็นเจ้าแรกและเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย รวมไปถึงธุรกิจวิตามินและอาหารเสริมส่วนบุคคล ซึ่งได้รับการยอมรับเป็นวงกว้าง                            

และผลการดำเนินงานที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเข้าลงทุนในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้บริษัทฯ สามารถเติบโตไปพร้อมกับเมกะเทรนด์ด้านการดูแลสุขภาพได้ในอนาคต ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผลงานเติบโตก้าวกระโดด

เหตุผลของการลงทุนในธุรกิจหลากหลายประเภท

อย่างการลงทุนในด้านสุขภาพแม้ปัจจุบันจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ในอนาคตหรืออีก 10 ปีข้างหน้า เมื่อบริษัทใหญ่ขึ้นเรื่อย  สุดท้ายทุกธุรกิจที่เราลงทุนจะเกี่ยวข้องกันเอง 

มองการลงทุนในธุรกิจอื่นอีกหรือไม่

จริงๆเราก็ไม่ปิดโอกาสแต่ถ้าน่าสนใจและมีกำไร เราก็จะศึกษาแต่ขอให้อยู่ในกรอบหรือกลยุทธ์ที่วางไว้

วางเป้าหมาย PSP ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าอย่างไร

เราต้องการโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 10-15% โดยหลักๆยังเน้นที่ธุรกิจหลักของเรา  เรายังต้องการเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย และจะขยายตลาดไปต่างประเทศส่งออกไปให้มากขึ้น   เราต้องการเป็นผู้นำในเอเชีย ซึ่งเราพยายามทำเรื่องMarketing  ทำเรื่องแบรนด์  เพื่อให้เป็นที่รู้จักของลูกค้า 

กลยุทธ์ในการทำธุรกิจ 2-3 ปีข้างหน้า

เรายังตั้งเป้าหมายที่จะเป็นที่  1 ของตลาด โดยผ่าน 3 แนวทางได้แก่

1.เรื่องคน หรือการให้บริการ

2.เรื่องต้นทุน

3. เรื่องSupply หากลูกค้าต้องการสินค้าเราต้องจัดหาได้ทันที
PSP