Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 23-07-24 (5ประเด็นต้องติดตามในสัปดาห์นี้!)

23 กรกฎาคม 2567

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 23-07-24 (5ประเด็นต้องติดตามในสัปดาห์นี้!)

23-07-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ

***ประกาศผลการดำเนินงานครบถ้วนแล้วสำหรับแบงก์ขนาดใหญ่ (หน่วย : พันบาท)

แบงก์ Q2/66 Q2/67 6 เดือน/66 6 เดือน/67

BBL 11,806,827 11,293,517 22,330,478 21,422,806

6.19 5.92 11.70 11.22

KBANK 12,652,915 10,994,272 26,138,638. 21,735,333

5.34 4.64 10.87 9.02

KTB 11,195,146 10,156,196 22,273,593 20,222,792

0.80 0.73 1.59 1.45

SCB 10,014,333 11,868,127 21,295,356 22,863,503

2.97 3.52 6.32 6.79

TTB. 5,355,474 4,566,286. 10,689,263 8,860,801

0.06 0.05 0.11 0.09

***แบงก์ใหญ่รายงานตัวครบถ้วน นักลงทุนเกาะติดข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ และคุณภาพลูกหนี้ที่อ่อนแอขึ้น ดังนั้นเป็นไปได้ว่าจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มธนาคารในสัปดาห์นี้ต่อเนื่อง

***ส่วนสัปดาห์นี้มี 5 ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคือ

1.วันที่ 23 ก.ค. ครม.พิจารณา แนวทางช่วยเหลือค่าไฟฟ้ารอบ ก.ย.- ธ.ค. และ กองทุน ThaiESG เกณฑ์ใหม่

2. วันที่ 24 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดีคุณสมบัตินายกฯ คาดมีโอกาสกำหนดวันวินิจฉัยคล้ายคดียุบพรรคก้าวไกล (7 ส.ค.)

3.วันที่ 23-26 ส.ค. ติดตามรายงานยอดนำเข้า - ส่งออก เดือนมิ.ย.นี้ ตลาดคาดส่งออก 2.0%y-y vs prev. 7.2%y-y ยอดน าเข้า ตลาดคาด 3.0%y-y vs prev.1.7%y-y

4. รายงานกำไร Real Sector ที่มีกำหนดรายงานสัปดาห์หน้า อาทิ SCGP, SCC,GLOBAL, DELTA

5.การทยอย Preview กำไรงวด 2Q24F กลุ่ม Real Sector จะออกมาเพิ่มขึ้น กูรูหุ้นระบุว่ากลุ่มกำไรเด่น y-y, q-q อาทิ สื่อสาร (ADVANC, TRUE) ค้าปลีก (CPALL, CPAXT) เครื่องดื่ม (ICHI, OSP, SAPPE) ชิ้นส่วน (KCE) เกษตร (GFPT, CPF) ท่องเที่ยว (MINT) โรงไฟฟ้า(CKP, GULF, GPSC) ความงาม (MASTER, KLINIQ)

***มีอีกเรื่องที่เจ๊จิ๋มอยากให้พวกเรามองเผื่อเอาไว้ด้วย..ไม่ใช่มองแค่ระยะสั้น นั่นก้อคือการประเมินเกี่ยวกับการเลือกตั้งของสหรัฐฯ หากว่า “ทรัมป์” เกิดได้รับชัยชนะการเลือกต้ัง นโยบาย American First จะกลับอีกครั้ง อาจทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการค้าโลก ด้วยการตั้ง กำแพงภาษี สกัดสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ซึ่งไทยอาจได้รับผลกระทบสหรัฐฯ มองข้ามไม่ลงทุนไทย เนื่องจากไทยมีการลงทุนจากจีนจำนวนมาก

***ขยายความเรื่อง กองทุน ThaiESG กันหน่อย!!! ตอนนี้กลับมาเป็นกระแสได้รับความสนใจกอีกครั้งหลังจากที่ื “คลัง” เตรียมชงเรื่องเข้าครม. สัปดาห์นี้ (23 ก.ค. 67) ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าเม็ดเงินจากฝั่งสถาบันจะกลับมาซื้อสุทธิ SET และหนุนดัชนีปรับตัวขึ้นช่วงสั้นได้

***กูรูหุ้นคาดว่าเม็ดเงินจากสถาบันฯ มีโอกาสเอนเอียงหนุนในตลาดหุ้นไทยมากกว่าตราสารหนี้ เนื่องจาก หากพิจารณา AUM กองทุน THAIESG ณ พ.ค.67 ทั้งหมด 6.8 พันล้านบาท (32 กองทุน) มีตัวเลือกเป็นกองทุนตราสารหนี้ ESG เพียงกองเดียว รวมถึงประเด็นความกังวลการผิดนัดชำระหนี้ในหุ้นกู้อื่นๆ ในปัจจุบันอาจทำให้สถาบันฯเน้นออกกองทุน TESG ใหม่เป็นกองทุนหุ้นมากกว่ากองทุนตราสารหนี้ได้หนุนเม็ดงเนน่าจะไหลเข้ามาในตลาดหุ้นได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

***ส่วนเม็ดเงินที่คาดหวังจาก THAIESG ใหม่ ที่ไหลกลับเข้ามาหนุนตลาดหุ้นราว 4 – 5 หมื่นล้านบาท ตามการเปรียบเทียบด้านเม็ดเงินที่สามารถนำมาลดหย่อยภาษีได้กับกองทุน LTF เดิม ซึ่งเม็ดเงินที่หนุน SET ทุกๆ 1 หมื่นล้านบาท มักหนุนให้ SET ขยับขึ้นได้ 1% – 2%

***มีกูรูหุ้นได้ทำการคัดกรองหุ้นที่กองทุน TESG ถือเยอะสุด 9 อันดับ คือ CPALL -AOT- PTT- DELTA -GULF -PTTEP -CPAXT- CPN -BDMS และยังคัดกรองหุ้นใน SETESG ที่มี ESG RATINGS อยู่ในระดับสูงสุด “AAA” (มีคะแนนเกิน 90 จาก 100 คะแนน) และยังมี CG REPORT อยู่ในระดับ "ดีเลิศ" หรือ 5คะแนน น่าจะเป็นหุ้นเป้าหมายอันดับต้น ที่เม็ดเงินของนักลงทุนสถาบันฯ และเม็ดเงินจาก THAIESG FUND ใหม่จะไหลเข้า ได้ผลลัพธ์ 29 บริษัท โดยหุ้นในกลุ่มดังกล่าว ทั้งนี้มีหุ้นที่ชื่นชอบ คือ ADVANC -CPALL -KBANK -SCC- CRC -PTTGC -TISCO -BGRIM -CKP -STA -AMATA -THCOM เป็นต้น

***ชอบ_หรือ_ไม่ชอบหุ้นตัวไหน..พิจารณาเลือกซื้อเลยค่ะ เงินเราอยู่ในกระเป๋าเรา จะหว่านออกไปหรือเก็บเอาไว้ก้ออยู่ที่ตัวเราแล้วล่ะ

KTB KBANK SCB BBL