Wealth Sharing

เดือน ส.ค. นี้มีเรื่องใหญ่! โบรกฯ ชี้หาก “เศรษฐา” หลุดนายก ตลาดหุ้นไทยจะร่วงแรง 1,250 จุด


25 กรกฎาคม 2567

ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ นัดชี้ชะตา 2 ประเด็นการเมืองระดับประเทศ ทั้ง คำร้องคดียุบพรรคก้าวไกล กรณีเสนอแก้ไข ม.112 และคดีคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน กรณีคำร้องของอดีต 40 ส.ว. แต่ไม่ว่าทั้ง 2 ประเด็นจะออกมาในรูปแบบไหน จะส่งผลต่อตลาดหุ้นหรือไม่ ทีมข่าวหาคำตอบมาให้แล้ว

WS (เว็บ) เดือนส.ค.นี้มีเรื่องใหญ่!_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า เดือนสิงหาคม 2567 จะมี 2 ปัจจัยใหญ่ทางการเมืองที่อาจส่งผลเปลี่ยนแปลงถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้ ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัย ได้แก่ 1. คำร้องคดียุบพรรคก้าวไกล กรณีเสนอแก้ไข ม.112 และ 2. คดีคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน กรณีคำร้องของอดีต 40 ส.ว.

โดยมุมมองและผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย โดยให้น้ำหนักกับประเด็นการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี

1. หากนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ทางฝ่ายประเมินว่าดัชนี SET Index มีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,250-1,275 จุด แนะนำลงทุนในหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจภายนอกและหุ้นในกลุ่ม Defensive

2.หากนายกรัฐมนตรียังอยู่ในตำแหน่ง คาดว่าความกดดันปัจจัยการเมืองจะคลี่คลายในระยะสั้น ส่งผลให้ SET Index มีโอกาสรีบาวด์ไปทดสอบแนวต้านแถว 1,350-1,360 จุด แนะนำลงทุนในหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจภายในประเทศ

ยุบก้าวไกลไม่มีผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า วันที่ 7 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณายุบหรือไม่ยุบพรรคก้าวไกล และวันที่ 14 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดีของนายกฯ

โดยตลาดให้น้ำหนักกับวันที่ 14 ส.ค. เป็นหลัก เพราะการยุบพรรคก้าวไกลไม่มีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ประเมินผลตัดสินเป็น 2 กรณี 1. นายกฯไม่ผิด คาด SET INDEX ฟื้นตัว โดยบริเวณ 1,330 จุด ยังเป็นแนวต้านสำคัญ 2. นายกฯ ผิด คาด SET INDEX ตอบรับเชิงลบ (ราว 1-3% อิงสถิติในอดีต) เพราะ ต้องใช้เวลาสรรหานายกฯและตั้ง ครม.ใหม่ประมาณ 1-2 เดือน