เปิดรายละเอียด “โครงการ Digital Wallet” เตรียมรับเงิน 10,000 บาทได้ใช้แน่?

เริ่มมีความชัดเจนเข้ามาเต็มที สำหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ซึ่งถือเป็นโครงการที่รัฐบาลเคลมว่า จะมุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ โดยครอบคลุม 878 อำเภอ ในการช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ที่จะส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวและชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจ สามารถพึ่งพาตนเองได้



ล่าสุดรัฐบาลแถลงข่าว ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิ Digital Wallet แบ่งเป็น กลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” วันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567 ส่วนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน วันที่16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567 ยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด (จะมีการแจ้งรายละเอียดอีกครั้ง)

ขณะที่ การลงทะเบียนร้านค้า วันที่ 1 ตุลาคม 2567 (จะแถลงข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติร้านค้า ช่องทาง วิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ และเงื่อนไขอื่นๆ อีกครั้ง) 

โดยการใช้สิทธิ์จะเริ่มมีผลตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2567 ซึ่งเงื่อนไขการใช้จ่าย ประกอบด้วย 1.ประชาชนกับร้านค้า ได้แก่ ร้านค้าขนาดเล็ก ,ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น ในร้านในอำเภอตามทะเบียนบ้าน ต้องซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) 

2.การใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า ได้แก่ ร้านค้าทุกประเภทสามารถซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้ และไม่มีเงื่อนไขว่าต้องเป็นการซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) จึงซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้แม้จะอยู่ต่างพื้นที่ คาดว่าจะมี 2 ล้านร้านค้า 

3. ประเภทสินค้า ได้แก่ ทุกประเภท ยกเว้น Negative List ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร (อาจพิจารณาแก้ไขปรับปรุงรายการสินค้า Negative List เพิ่มเติมได้)  

ขณะที่มุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองว่า กรอบเวลาที่มีความชัดเจนมากขึ้น ผสานมองในช่วงถาม - ตอบ มีจุดสร้างความเชื่อมั่นได้ 

อาทิ การที่มี BOT ช่วยตรวจสอบระบบชำระเงิน, การชี้แจงระบบป้องกันทุจริต และแนวทางการใช้งบประมาณส่วนเพิ่มปี 2567ในปีงบถัดไป 

โดยเชื่อว่าตลาดมีโอกาสค่อยๆกลับมาตอบรับทางบวกต่อหุ้น Domestic ที่ได้ประโยชน์ โดยประเด็นที่รอความชัดเจน มองการชี้แจงแนวทางที่มาเงินส่วนหนึ่งจะมาจากการบริหารจัดการงบประมาณประจำปี 2568 สูงราว 1.32 แสนล้านบาท และการพัฒนาระบบชำระเงินว่าจะทันตามกำหนดหรือไม่ ระยะสั้นเน้น กลุ่มค้าปลีก เครื่องดื่ม CPALL, CPAXT, BJC, CBG, ICHI, OSP (ตั้งรับ)

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองเป็นกลางเชิงบวกต่อประเด็นดังกล่าว แม้กำาหนดการ, คุณสมบัติของผู้ได้สิทธิ, และเงื่อนไขด้านสินค้าที่ให้ใช้ Digital Wallet ได้ ยังใกล้เคียงกับที่รัฐบาลเคยแถลงก่อนหน้านี้ 

แต่ Timeline ที่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีโอกาสฟื้นตัวตั้งแต่กลางไตรมาส 3/67 กลุ่มที่ได้ประโยชน์ ค้าปลีก อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น CPALL, CPAXT, GLOBAL, DOHOME, OSP, CBG เป็นต้น