Wealth Sharing
ลงทุนเอกชน-ต่างชาติพุ่ง BOI เผยยอดขอส่งเสริมลงทุน 4.58 แสนลบ. โต 35% โบรกฯ ชี้ AMATA-WHA รับผลบวกเต็มๆ
25 กรกฎาคม 2567
อีกหนึ่งฟันเฟืองที่เป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ก็คือภาคการลงทุนจากเอกชนและต่างชาติ ซึ่งล่าสุดเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ออกมาชี้แจงยอดการขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรกที่เติบโตขึ้นจนน่าประหลาดใจ แต่ตัวเลขดังกล่าวจะสะท้อนต่อภาคตลาดทุนมากน้อยเพียงใด ไปรับชมมุมมองจากนักวิเคราะห์กัน
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ตัวเลขของ BOI ที่มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วงครึ่งปีแรกปี 67 มีมูลค่า 4.58 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากช่วงเดียวกัน ขณะที่ FDI งวดครึ่งปีแรกปี 67 สูง 3.25 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%จากช่วงเดียวกัน
สำหรับยอด BOI ที่ขอดังกล่าวมีจุดน่าสนใจที่ สัดส่วน 44.5% เป็นอุตสาหกรรม S Curve ใหม่ อาทิ อิเลคทรอนิกส์ขั้นสูง แผงวงจร PCB อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อัจฉริยะ Data Center กิจการระบบ Automation
โดยการลงทุนเอกชน รวมถึงต่างประเทศที่มีสัญญาณขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่สัดส่วนการขอส่งเสริมเพื่อลงทุนในอุตสาหกรรม S Curve มีพัฒนาการมองหนึ่งในสัญญาณทางบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยระยะถัดไป
ทั้งนี้ มองประเด็นดังกล่าวเป็นบวกหุ้นกลุ่มนิคม อาทิ AMATA WHA ซึ่งระยะสั้นงวดไตรมาส 3/67 ถึงต้นไตรมาส 4/67 ขณะที่เราคาดจะมีกระแสเชิงบวกจากการหาเสียงก่อนเลือกตั้งใหญ่สหรัฐฯ ในเรื่องนโยบาย Trade War ,Tech War ของทั้งคุณ Harris และ Trump เป็นอีกแรงหนุน
โดยระยะสั้นวางกรอบลงทุนเทคนิค ดังนี้ AMATA ราคาเป้าหมายที่ 29 บาท วางกรอบแนวรับที่ 22.2 – 22 บาท และกรอบแนวต้านที่ 22.7 – 23 บาท จุดStop Lossที่ 21.9 บาท ส่วน WHA ราคาเป้าหมายที่ 6 บาท วางกรอบแนวรับที่ 4.94 - 4.86 บาท กรอบแนวต้านที่ 5.15 - 5.25 บาท และจุด Stop Loss ที่ 4.82 บาท
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ตัวเลขของ BOI ที่มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วงครึ่งปีแรกปี 67 มีมูลค่า 4.58 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากช่วงเดียวกัน ขณะที่ FDI งวดครึ่งปีแรกปี 67 สูง 3.25 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%จากช่วงเดียวกัน
สำหรับยอด BOI ที่ขอดังกล่าวมีจุดน่าสนใจที่ สัดส่วน 44.5% เป็นอุตสาหกรรม S Curve ใหม่ อาทิ อิเลคทรอนิกส์ขั้นสูง แผงวงจร PCB อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อัจฉริยะ Data Center กิจการระบบ Automation
โดยการลงทุนเอกชน รวมถึงต่างประเทศที่มีสัญญาณขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่สัดส่วนการขอส่งเสริมเพื่อลงทุนในอุตสาหกรรม S Curve มีพัฒนาการมองหนึ่งในสัญญาณทางบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยระยะถัดไป
ทั้งนี้ มองประเด็นดังกล่าวเป็นบวกหุ้นกลุ่มนิคม อาทิ AMATA WHA ซึ่งระยะสั้นงวดไตรมาส 3/67 ถึงต้นไตรมาส 4/67 ขณะที่เราคาดจะมีกระแสเชิงบวกจากการหาเสียงก่อนเลือกตั้งใหญ่สหรัฐฯ ในเรื่องนโยบาย Trade War ,Tech War ของทั้งคุณ Harris และ Trump เป็นอีกแรงหนุน
โดยระยะสั้นวางกรอบลงทุนเทคนิค ดังนี้ AMATA ราคาเป้าหมายที่ 29 บาท วางกรอบแนวรับที่ 22.2 – 22 บาท และกรอบแนวต้านที่ 22.7 – 23 บาท จุดStop Lossที่ 21.9 บาท ส่วน WHA ราคาเป้าหมายที่ 6 บาท วางกรอบแนวรับที่ 4.94 - 4.86 บาท กรอบแนวต้านที่ 5.15 - 5.25 บาท และจุด Stop Loss ที่ 4.82 บาท