Wealth Sharing
สัญญาณชัด! เปิด 3 เหตุผลหนุนต่างชาติ หวนซื้อหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้
30 กรกฎาคม 2567
นักวิเคราะห์ออกมาเปิดสัญญาณชัด! ช่วงที่เหลือของปี 67 มีโอกาสเห็นต่างชาติหวนซื้อหุ้นไทย ล่าสุดต่างชาติ LONG สุทธิสัญญา SET50 FUTURES แถ กลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยผ่าน NVDR อย่างโดดเด่น และกลับมาซื้อตราสารหนี้ไทย ในเดือน ก.ค.อีกด้วย
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า เริ่มต้นช่วงครึ่งหลังของปี หรือเดือน ก.ค. 67 (MTD) เห็นต่างชาติกลับมาลงทุนในไทย เด่นชัดมาขึ้น ดังนี้
โดยต่างชาติ LONG สุทธิสัญญา SET50 FUTURES ในเดือน ก.ค. สูงถึง 115,293 สัญญา จนหนุนให้แรง SHORT สุทธิช่วงครึ่งแรกปี 67 ที่ -99,984 สัญญาหายไป จนพลิกกลับมาเป็น LONG สุทธิ 15,309 สัญญา (YTD)
อีกทั้งต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยผ่าน NVDR อย่างโดดเด่น ในเดือน ก.ค. สูง ถึง 13,093 ล้านบาท จนหนุนให้แรงขายสุทธิช่วงครึ่งแรกปี 67 ที่ -12,125 ล้านบาทหายไป จนพลิกกลับมาเป็นซื้อสุทธิ 968 ล้านบาท (YTD)
ประกอบกับต่างชาติกลับมาซื้อตราสารหนี้ไทย ในเดือน ก.ค. สูงถึง 18,022 ล้านบาท หนุนให้แรงขายสุทธิช่วงครึ่งแรกปี 67 ที่ -29,661 ล้านบาท ลดลงเหลือขายสุทธิ 11,639 ล้านบาท (YTD)
และต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยในเดือน ก.ค. น้อยลงเหลือเพียง -2,154 ล้านบาท แตกต่างแรงขายสุทธิช่วงครึ่งปีแรก67 ที่ -117,031 ล้านบาท (เฉลี่ยขายสุทธิเกือบ -2 หมื่นล้านบาทต่อเดือน)
ดังนั้นในมุมมองของฝ่ายวิจัยฯ ยังมี 3 องค์ประกอบหลักๆ ช่วยหนุนให้ต่างชาติมีโอกาส กลับมาซื้อหุ้นไทยมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี คือ
1.การก้าวสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของ FED ECB BOE เร็วกว่า BOT หนุนให้ ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าในช่วงครึ่งหลังของปี และจูงใจให้ต่างชาติมีโอกาส เพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะมีโอกาสได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เพิ่มเติม
2.เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มค่อยๆ ฟื้นตัว โดยคลังเพิ่มคาดการ GDP ปี 2567 เติบโตจาก 2.4% เป็น 2.7% (IMF เพิ่มคาด GDP ปี 2567 เติบโตจาก 2.7% เป็น 2.9% ) แต่เศรษฐกิจโลกเริ่มทรงๆ (IMF คาด GDP ปี 2567 เติบโต 1.7%) และอาจชะลอลงหลังเห็นธนาคารต่างๆ เริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย
3. ทางตลาดหลักทรัพย์ออกมาตการต่างๆ เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่อเนื่อง โดยเริ่มจากใช้กฎ UPTICK ในเดือน ก.ค. ส่งผลให้สัดส่วนปริมาณ การ SHORT SELL ลดลงเหลือ 4.51% ของปริมาณซื้อขายทั้งหมด (จากช่วงครึ่งปีแรก 67 มีสัดส่วน SHORT SELL 11%) นอกจากนี้ทางตลาดฯ ยังเตรียมออก มาตรการควบคุม HFT และ PROGRAM TRADING ในระยะถัดไป ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ช่วงครึ่งหลังของปี มีโอกาสเห็นนักลงทุนต่างชาติกลับมาลงทุนในไทยเด่นชัดขึ้น
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า เริ่มต้นช่วงครึ่งหลังของปี หรือเดือน ก.ค. 67 (MTD) เห็นต่างชาติกลับมาลงทุนในไทย เด่นชัดมาขึ้น ดังนี้
โดยต่างชาติ LONG สุทธิสัญญา SET50 FUTURES ในเดือน ก.ค. สูงถึง 115,293 สัญญา จนหนุนให้แรง SHORT สุทธิช่วงครึ่งแรกปี 67 ที่ -99,984 สัญญาหายไป จนพลิกกลับมาเป็น LONG สุทธิ 15,309 สัญญา (YTD)
อีกทั้งต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยผ่าน NVDR อย่างโดดเด่น ในเดือน ก.ค. สูง ถึง 13,093 ล้านบาท จนหนุนให้แรงขายสุทธิช่วงครึ่งแรกปี 67 ที่ -12,125 ล้านบาทหายไป จนพลิกกลับมาเป็นซื้อสุทธิ 968 ล้านบาท (YTD)
ประกอบกับต่างชาติกลับมาซื้อตราสารหนี้ไทย ในเดือน ก.ค. สูงถึง 18,022 ล้านบาท หนุนให้แรงขายสุทธิช่วงครึ่งแรกปี 67 ที่ -29,661 ล้านบาท ลดลงเหลือขายสุทธิ 11,639 ล้านบาท (YTD)
และต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยในเดือน ก.ค. น้อยลงเหลือเพียง -2,154 ล้านบาท แตกต่างแรงขายสุทธิช่วงครึ่งปีแรก67 ที่ -117,031 ล้านบาท (เฉลี่ยขายสุทธิเกือบ -2 หมื่นล้านบาทต่อเดือน)
ดังนั้นในมุมมองของฝ่ายวิจัยฯ ยังมี 3 องค์ประกอบหลักๆ ช่วยหนุนให้ต่างชาติมีโอกาส กลับมาซื้อหุ้นไทยมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี คือ
1.การก้าวสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของ FED ECB BOE เร็วกว่า BOT หนุนให้ ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าในช่วงครึ่งหลังของปี และจูงใจให้ต่างชาติมีโอกาส เพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะมีโอกาสได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เพิ่มเติม
2.เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มค่อยๆ ฟื้นตัว โดยคลังเพิ่มคาดการ GDP ปี 2567 เติบโตจาก 2.4% เป็น 2.7% (IMF เพิ่มคาด GDP ปี 2567 เติบโตจาก 2.7% เป็น 2.9% ) แต่เศรษฐกิจโลกเริ่มทรงๆ (IMF คาด GDP ปี 2567 เติบโต 1.7%) และอาจชะลอลงหลังเห็นธนาคารต่างๆ เริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย
3. ทางตลาดหลักทรัพย์ออกมาตการต่างๆ เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่อเนื่อง โดยเริ่มจากใช้กฎ UPTICK ในเดือน ก.ค. ส่งผลให้สัดส่วนปริมาณ การ SHORT SELL ลดลงเหลือ 4.51% ของปริมาณซื้อขายทั้งหมด (จากช่วงครึ่งปีแรก 67 มีสัดส่วน SHORT SELL 11%) นอกจากนี้ทางตลาดฯ ยังเตรียมออก มาตรการควบคุม HFT และ PROGRAM TRADING ในระยะถัดไป ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ช่วงครึ่งหลังของปี มีโอกาสเห็นนักลงทุนต่างชาติกลับมาลงทุนในไทยเด่นชัดขึ้น