Wealth Sharing
FM เผยกลุ่มดุษฎีโหนด -กองทุนยังกอดหุ้นแน่น เตรียมเร่งปิดสมุดบัญชีผู้ถือหุ้นใน 1 สัปดาห์ มั่นใจผลงานปี 67 เติบโตแบบก้าวกระโดด
30 กรกฎาคม 2567
FM แจง 2 กลุ่มผู้ถือหุ้นครอบครัวดุษฎีโหนดและกลุ่มนอร์ทเฮเว่น ไทย ยังถือหุ้นครบ พร้อมเตรียมตรวจสอบผู้ถือหุ้นรายอื่นจ่อปิดบัญชีผู้ถือหุ้นภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนผลงานไตรมาส 3/67 ยังโตเด่น หลังราคาไก่เพิ่มขึ้น-ดีมานด์พุ่ง มองรายได้ทั้งปี 67 โต 2-3 เท่า
นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น FM เปิดเผยกับสำนักข่าว Share2Trade ว่า ทิศทางผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 จะยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง ตามราคาขายไก่ที่ปรับตัวขึ้นมา 4-5% จากไตรมาสก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน บริษัทมีคำสั่งซื้อจากในประเทศและต่างประเทศเข้ามากขึ้น หลังจากบราซิลถูกสั่งห้ามส่งออกไก่ไปจีนเนื่องจากเกิดโรคไข้หวัดนก จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทั้งราคาขายไก่และความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ส่วนรายได้ทั้งปี 2567 คาดการณ์ว่าจะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดหรือ 2 - 3 เท่าจากปีก่อนหน้า
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/67 จะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทยได้ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ซึ่งเบื้องต้นตัวเลขผลการดำเนินงานยังคงเติบโตได้จากไตรมาสก่อนหน้าและเติบโตได้โดดเด่นจากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากที่สถานการณ์ของตลาดไก่ดิบเข้าสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ แผนใช้เงินจากการะดมทุนไอพีโอในเดือนสิงหาคมนี้ บริษัทจะเริ่มใช้ในการซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มเพิ่มกำลังการผลิตอีก 10% จากปัจจุบันที่โรงงานแปรรูปมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.7 หมื่นตันต่อปี และโรงเชือดและชำแหละไก่ที่ 1.44 แสนตัวต่อวัน ซึ่งวางแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 30% ในช่วง 3 ปีนี้
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรอีก 2 – 3 ราย เพิ่มร่วมทุนในการประกอบธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง โดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากไอพีโอราว 20% และคาดหวังว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนได้อย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งหากเป็นไปตามแผนดังกล่าวจะช่วยให้ในปี 2568 สามารถรับรู้ส่วนแบ่งรายได้และกำไรได้
ด้านประเด็นเกี่ยวกับ P/E ของบริษัทที่ถูกมองว่าสูงเกินไปนั้น ส่วนตัวมองว่าจากการทำการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) กับนักลงทุนสถาบัน จนได้ราคาไอพีโอที่ 5.40 บาท ค่อนข้างเหมาะสมแล้ว เนื่องจากประชุมกับนักวิเคราะห์ซึ่งได้พูดคุยถึงทิศทางธุรกิจในอนาคต หลายเจ้าได้ให้ราคาเหมาะสมที่ 7-8 บาท อิง Forward P/E ที่ 9-10 เท่า
สำหรับการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นทั้ง 2 กลุ่ม อย่างครอบครัวดุษฎีโหนดยังถือครองอยู่เช่นเดิมโดยมีติด lock up ไปอีก 1 ปี เช่นเดียวกันกับกลุ่มนอร์ทเฮเว่น ไทย ไพรเวท อิควิตี้ ที่ยังคงถือครองไว้ 10% แม้ว่าจะมี lock up เพียง 3% แต่ด้วยตำแหน่งกรรมการบริษัทและเป็นช่วงใกล้ประกาศผลการดำเนินงาน จึงไม่สามารถขายหุ้นส่วนที่เหลือได้
แต่อย่างไรก็ดี จากราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมานั้น ได้สร้างความกังวลและตื่นตระหนกให้แก่นักลงทุน บริษัทจึงได้มีการตรวจสอบการถือครองหุ้นของผู้ลงทุนรายอื่น รวมไปถึงจะมีปิดสมุดบัญชีผู้ถือหุ้นซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการดำเนินการดังกล่าวโดยคาดว่าจะใช้เวลาราว 1 สัปดาห์
นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น FM เปิดเผยกับสำนักข่าว Share2Trade ว่า ทิศทางผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 จะยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง ตามราคาขายไก่ที่ปรับตัวขึ้นมา 4-5% จากไตรมาสก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน บริษัทมีคำสั่งซื้อจากในประเทศและต่างประเทศเข้ามากขึ้น หลังจากบราซิลถูกสั่งห้ามส่งออกไก่ไปจีนเนื่องจากเกิดโรคไข้หวัดนก จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทั้งราคาขายไก่และความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ส่วนรายได้ทั้งปี 2567 คาดการณ์ว่าจะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดหรือ 2 - 3 เท่าจากปีก่อนหน้า
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/67 จะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทยได้ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ซึ่งเบื้องต้นตัวเลขผลการดำเนินงานยังคงเติบโตได้จากไตรมาสก่อนหน้าและเติบโตได้โดดเด่นจากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากที่สถานการณ์ของตลาดไก่ดิบเข้าสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ แผนใช้เงินจากการะดมทุนไอพีโอในเดือนสิงหาคมนี้ บริษัทจะเริ่มใช้ในการซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มเพิ่มกำลังการผลิตอีก 10% จากปัจจุบันที่โรงงานแปรรูปมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.7 หมื่นตันต่อปี และโรงเชือดและชำแหละไก่ที่ 1.44 แสนตัวต่อวัน ซึ่งวางแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 30% ในช่วง 3 ปีนี้
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรอีก 2 – 3 ราย เพิ่มร่วมทุนในการประกอบธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง โดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากไอพีโอราว 20% และคาดหวังว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนได้อย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งหากเป็นไปตามแผนดังกล่าวจะช่วยให้ในปี 2568 สามารถรับรู้ส่วนแบ่งรายได้และกำไรได้
ด้านประเด็นเกี่ยวกับ P/E ของบริษัทที่ถูกมองว่าสูงเกินไปนั้น ส่วนตัวมองว่าจากการทำการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) กับนักลงทุนสถาบัน จนได้ราคาไอพีโอที่ 5.40 บาท ค่อนข้างเหมาะสมแล้ว เนื่องจากประชุมกับนักวิเคราะห์ซึ่งได้พูดคุยถึงทิศทางธุรกิจในอนาคต หลายเจ้าได้ให้ราคาเหมาะสมที่ 7-8 บาท อิง Forward P/E ที่ 9-10 เท่า
สำหรับการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นทั้ง 2 กลุ่ม อย่างครอบครัวดุษฎีโหนดยังถือครองอยู่เช่นเดิมโดยมีติด lock up ไปอีก 1 ปี เช่นเดียวกันกับกลุ่มนอร์ทเฮเว่น ไทย ไพรเวท อิควิตี้ ที่ยังคงถือครองไว้ 10% แม้ว่าจะมี lock up เพียง 3% แต่ด้วยตำแหน่งกรรมการบริษัทและเป็นช่วงใกล้ประกาศผลการดำเนินงาน จึงไม่สามารถขายหุ้นส่วนที่เหลือได้
แต่อย่างไรก็ดี จากราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมานั้น ได้สร้างความกังวลและตื่นตระหนกให้แก่นักลงทุน บริษัทจึงได้มีการตรวจสอบการถือครองหุ้นของผู้ลงทุนรายอื่น รวมไปถึงจะมีปิดสมุดบัญชีผู้ถือหุ้นซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการดำเนินการดังกล่าวโดยคาดว่าจะใช้เวลาราว 1 สัปดาห์