กระดานข่าว

ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ต้อนรับ บมจ. ไนซ์ คอล (NCP) เริ่มซื้อขาย 31 ก.ค. นี้


30 กรกฎาคม 2567

บมจ. ไนซ์ คอล (NCP) ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า และให้บริการทำการตลาดแบบตรงผ่านช่องทางการขายทางโทรศัพท์ ร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 31 .. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 360 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า NCP

คุณประพันธ์ เจริญประวัติ.jpg

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. ไนซ์ คอล เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มบริการ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “NCP” ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567

NCP ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า และให้บริการทำการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) ผ่านช่องทางการขายทางโทรศัพท์ (Telemarketing) โดยสินค้าที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการจัดจำหน่าย ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ความสวยงาม และสินค้าเวชสำอาง ปัจจุบันบริษัทมีคู่ค้าพันธมิตรที่ขายสินค้าผ่านช่องทางการขายของบริษัท 42 ราย และมีสินค้าที่จัดจำหน่ายทั้งหมด 57 แบรนด์ 203 รายการ นอกจากนี้ บริษัทได้มีการพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเองชื่อ “BN” มีสินค้าออกจำหน่ายแล้ว 21 ผลิตภัณฑ์ ในช่วงปี 2566 บริษัทเริ่มขยายธุรกิจสู่การให้บริการเพิ่มยอดขายสินค้าจากการขายสินค้าครั้งแรก (Upselling Service) และบริการบริหารพนักงานขาย (Dedicated Telesale Outsourcing) ซึ่งเป็นการจัดหาทีมขายผ่านโทรศัพท์เฉพาะเจาะจงให้กับเจ้าของสินค้า ทั้งนี้บริษัทมีฐานข้อมูลลูกค้าเป้าหมายมากกว่า 5 ล้านรายชื่อ และมีพนักงานขายสินค้าทางโทรศัพท์ ที่เป็นพนักงานประจำและผู้ต้องขังภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมกับเรือนจำในหลายพื้นที่ รวม 219 คน ในไตรมาสแรกปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าของคู่ค้า รายได้จากการขายสินค้าแบรนด์ของบริษัท และรายได้บริการ ในสัดส่วนร้อยละ 66 : 31 : 3 ตามลำดับ 

NCP มีทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 90 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 130 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น โดยเป็นการเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จำนวน 46.25 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 2.75 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน 1.00 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 19, 23-24 กรกฎาคม 2567 ในราคาหุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 100 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 360 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 28.14 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.07 บาท โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม

นายศรัณย์ เวชสุภาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไนซ์ คอล เปิดเผยว่า กว่า 10 ปี ที่บริษัททำการตลาดแบบตรง มีระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์หรือ CRM เป็นของตัวเองตั้งแต่ก่อตั้ง ทำให้มีความเข้าใจผู้บริโภคในการขายผ่านโทรศัพท์เป็นอย่างดี และมีฐานข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่จะสามารถนำไปต่อยอดในการร่วมวางกลยุทธ์การขายสินค้ากับคู่ค้าพันธมิตร  สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ขยายจำนวนพนักงานขายทางโทรศัพท์ในเรือนจำ พัฒนาระบบเทคโนโลยีซอฟต์แวร์และระบบเครือข่ายเพื่อรองรับการเพิ่มจำนวนพนักงาน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

NCP มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ นายศรัณย์ เวชสุภาพร ถือหุ้นร้อยละ 50.56 นายนพพล ชูกลิ่น ถือหุ้นร้อยละ 18.05  นายเอนก อึ้งตระกูล ถือหุ้นร้อยละ 3.61 บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินบริษัทภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียด จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.nicecall.co.th และ www.set.or.th 

NCP