กระดานข่าว

AHC เผยครึ่งปีหลัง 67 ฟอร์มดีรับไฮซีซัน เดินหน้ากลยุทธ์จับมือพันธมิตรทั้งใน-ต่างประเทศ เพิ่มโอกาสธุรกิจ ต่อยอดการเติบโต


30 กรกฎาคม 2567

นายสิริพจน์ มาโนช AHC -new 02_0_0.jpg 

AHC เผยทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2567 สัญญาณดีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เข้าสู่ช่วง  ไฮซีซันธุรกิจ เปิดบริการให้คำปรึกษาเรื่องการควบคุมน้ำหนัก Weight Management และ   กลุ่มลูกค้า LGBTQ ตอบรับนโยบายสมรมเท่าเทียม , เดินหน้ากลยุทธ์จับมือกับพันธมิตร BKGI   ชูบริการเสริมการตรวจคัดกรองภาวะความผิดปกติทางพันธุกรรม ดาวน์ซินโดรมทารกในครรภ์ และพันธมิตรบริษัท TCI จากประเทศไต้หวัน เปิดให้บริการตรวจคัดกรองโรคความเสี่ยงที่       เกิดจากพันธุกรรม เพิ่มโอกาสธุรกิจ ขยายฐานลูกค้าหลากหลายดันยอดการใช้บริการ OPD – IPD เพิ่ม หนุนรายได้เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15 %

  นายสิริพจน์ มาโนช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร บริษัท โรงพยาบาลเอกชล จำกัด (มหาชน) หรือ AHC โรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกใน จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วง ครึ่งปีหลัง 2567 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ และจากการเปิดศูนย์บริการเต็มระบบทั้ง IPD (In-Patient Department) หรือ “ผู้ป่วยใน” และ OPD (Out-Patient Department) หรือ“ผู้ป่วยนอก อีกทั้ง ยอดใช้บริการจากกลุ่มลูกค้าบริษัทประกันสุขภาพมีจำนวนเพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของธุรกิจประกันภัย

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดให้บริการ ให้คำปรึกษาเรื่องการควบคุมน้ำหนัก Weight Management และ กลุ่ม LGBTQ ให้บริการปรึกษาและรักษาเฉพาะด้านสำหรับเพศทางเลือก อาทิ  การปรับฮอร์โมน หรือ การปรึกษาจิตแพทย์ ตอบรับนโยบายสมรสเท่าเทียมที่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย  เพื่อเพิ่มโอกาสธุรกิจขยายฐานลูกค้าหลากหลายซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ยอดการใช้บริการ OPD – IPD เพิ่มขึ้น

อีกทั้ง บริษัทเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เตรียมจับมือพันธมิตร บริษัท แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) BKGI เสริมบริการด้านการตรวจคัดกรองภาวะความผิดปกติทางพันธุกรรม ดาวน์ซินโดรมทารกในครรภ์ และพันธมิตร บริษัท TCI จากประเทศไต้หวัน           

เปิดให้บริการตรวจคัดกรองโรคความเสี่ยงที่เกิดจากพันธุกรรมได้ถึง 58 โรค อาทิ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง     เพื่อหาแนวทางป้องกันโรคเหล่านี้ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ จากการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และการขยายฐานลูกค้า คาดว่าจะส่งผลให้บริษัทเติบโตของรายได้ ตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 15 %

“ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้คนไทยส่วนใหญ่ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น    การซื้อยาด้วยตนเองทดแทนการเข้าใช้บริการรักษาที่โรงพยาบาล ในกรณีเจ็บป่วยเล็กน้อย        ส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน อย่างไรก็ตาม การรักษาโรคด้วยนวัตกรรมและผู้เชี่ยวชาญยังคงมีความสำคัญมากต่อการรักษาสุขภาพ ซึ่งถือเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตที่     ขาดไม่ได้ ธุรกิจโรงพยาบาลจึงยังจำเป็นต่อการดำรงชีวิตอยู่ของผู้ใช้บริการเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลเอกชลมุ่งเน้นพัฒนาสรรหาและพัฒนาบุคลากรเพื่อรับรองการดำเนินชีวิตของผู้ใช้บริการ ควบคู่กลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ พร้อมทั้งรักษาระดับมาตรฐานการให้บริการ โดยมุ่งเน้นผ่านการรับรองมาตรฐาน JCI (Joint Commission International) มาตรฐานการรับรองคุณภาพระดับสากลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ”นายสิริพจน์ กล่าว