Talk of The Town

ดีเดย์ 1 ส.ค.นี้ AOT ขอคืนพื้นที่ Duty free จาก “คิงเพาเวอร์” สูญรายได้ไปกว่าเดือนละ 143 ลบ.


31 กรกฎาคม 2567
ดีเดย์ 1 ส.ค.นี้ AOT ของคืนพื้นที่ copy_01.jpg

นายกฤช ภาคากิจ เลขานุการบริษัท บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT  เปิดเผยว่า ตามที่ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ มาตรการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลัง (กค.) ศึกษาความเหมาะสมในการดำเนินมาตรการยกเลิกการอนุญาตให้จัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้า ปลอดอากรขาเข้า 


รวมถึงการยกเว้นอากรของที่ซื้อจากร้านค้าปลอดอากรสำหรับผู้โดยสารขาเข้าเพื่อส่งเสริมการบริโภค และการใช้สินค้าภายในประเทศ และมติ ครม. เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ที่ประชุมได้มีมติรับทราบแนวทางการหยุด การดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรด้านคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้าปลอดอากรขาเข้าของ ผู้ประกอบการตามที่ กค.เสนอ 

โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงวงเงินใช้จ่ายในร้านค้าปลอดอากรขาเข้าดังกล่าว มากระจายหมุนเวียนในประเทศให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในภาพรวมได้มากยิ่งขึ้นนั้น

กค. โดยกรมศุลกากร (กศก.) ได้มีหนังสือแจ้งขอความร่วมมือจากบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT  ในการดำเนินการตามมติ ครม.ดังกล่าว ข้างต้น ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป 

ในการนี้ KPD จึงได้มีหนังสือถึง กศก. แจ้งยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ กศก. พร้อมทั้งมีหนังสือถึง ทอท. แจ้งการหยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้า ในพื้นที่ประกอบกิจการ จำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) จำนวนพื้นที่ประมาณ 1,870.69 ตารางเมตร, ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จำนวนพื้นที่รวม ประมาณ 217.45 ตารางเมตร และ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) จำนวนพื้นที่ประมาณ 162.46 ตารางเมตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อให้เป็นไปตามมติครม.ดังกล่าว

ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 10/2567 เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องประชุมคณะกรรมการ ทอท. ชั้น 7 อาคารสำนักงานใหญ่ ทอท. ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติให้ KPD หยุดประกอบ กิจการคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้าปลอดอากรขาเข้า ณ ทสภ., ทภก., ทชม., ทหญ.และ ทดม. โดยให้ ทอท.รับคืนพื้นที่ประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าดังกล่าวจาก KPD จำนวนพื้นที่โดยรวมประมาณ 2,250.60 ตารางเมตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การหยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าของ KPD ดังกล่าวข้างต้นมีผลทำให้พื้นที่ ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรของ KPD ณ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท.เปลี่ยนแปลงลดลง ซึ่งตามสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรระหว่าง ทอท. กับ KPD ได้กำหนดไว้ว่า 

ในกรณี พื้นที่ประกอบกิจการตามสัญญามีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่กำหนดไว้ไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้คิดค่าผลประโยชน์ตอบแทน เพิ่มขึ้นหรือลดลงตามจำนวนพื้นที่ร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง แล้วแต่กรณี 

ดังนั้น ในกรณีนี้ จะทำให้ ทอท.มีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ ณ ทสภ., ทภก., ทชม., ทหญ. และ ทดม. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 1.70 ล้านบาท และค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนในช่วงปีสัญญา 2567 –2568 ณ ทสภ. ลดลงเป็นจำนวนเงิน เดือนละประมาณ 126.25 ล้านบาท 

ณ ทภก., ทชม. และ ทหญ. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 8.41 ล้านบาทและ ณ ทดม. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 6.96 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทอท.มีโครงการที่จะเพิ่มรายได้ จากกิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่น ๆ ซึ่งจะเป็นการชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลงต่อไป
AOT