Talk of The Town
LTS เบรกสร้างโชว์รูม-โกดังสินค้า แก้วัตถุประสงค์เงินไอพีโอ - รับมือศก.ลดเสี่ยง พบ "เซียนฮง" ยังกอดหุ้นแน่น!
31 กรกฎาคม 2567
รายข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า บริษัท ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ LTS ได้แจ้งมติประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ที่ประชุมได้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินจากการเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO) ซึ่งบริษัทฯได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 55 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3 บาท
โดยได้รับเงินสุทธิรวม 154.02 ล้านบาท และมีวัตถุประสง์การใช้เงินตามหนังสือชี้ชวน จะนำเงินไปใช้เพื่อเป็นทุนหมุนเวียน 100 ล้านบาทระยะเวลาที่ใช้เงินปี 2567-2568 และเพื่อใช้ลงทุนในตึกออฟฟิศ Showroom และโกดังสินค้า 54.02 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทได้พิจารณาสถานการณ์เศรษฐกิจและแผนงบประมาณของรัฐบาลที่มีการเบิกจ่ายล่าช้า รวมถึงโอกาสทางธุรกิจในภาคเอกชน โดยเฉพาะด้าน IT Solution จึงเล็งเห็นว่า วัตถุประสงค์การใช้เงินปัจจุบันมีข้อจำกัดที่ส่งผลต่อการสร้างประโยชน์และผลตอบแทนที่สูงสุดต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในเรื่องของข้อจำกัดของโครงการถูกระบุไว้ที่มีความยืดหยุ่นน้อยหากเกิดความล่าช้าในโครงการต่างๆ
บริษัทฯจึงมีความตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินให้มีความยืดหยุ่นและสอดรับแผนธุรกิจโดยรวมและสถานการณ์ท่ามกลางเศรษฐกิจ ลดความเสี่ยงทางธุรกจ เพิ่มศักยภาพ และสร้างโอกาสการเติบโต และมูลค่าของบริษัท โดยจะใช้เป็นเงินทุนในการประกอบธุรกิจด้านหลอดไฟและอุปกรณ์ส่องสว่างกับลูกค้าทุกกลุ่ม และรวมถึงธุรกิจ IT Solution
โดยการเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้การใช้เงินมีความยืดหยุ่นสอดรับกับแผนและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ บริษัทฯจึงปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้เงิน โดยเพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจในการจัดหาสินค้าสำหรับโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ สวนสาธารณะอัจฉริยะ โครงการ Smart pole โครงการ smart city และ smart streel light จากเดิม 100 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงเป็น 25 ล้านบาท และตัดเงินลงทุนเพื่อใช้ลงทุนในตึกออฟฟิศ showroom และโกดังสินค้าออกไป
ขณะที่นำเงินไปเพื่อใช้เงินทุนในการดำเนินธุรกิจในการจัดหา อุปกรณ์ด้านหลอดไฟและอุปกรณ์ส่องสว่าง กับลูกค้าทุกกลุ่ม และรวมถึงธุรกิจIT Solution ทั้งการซื้อสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องและการสนับสนุนการประกอบธุรกิจทางด้านหลอดไฟและอุปกรณ์ส่องสว่าง
ทั้งนี้แผนการใเงินโดยบริษัทฯจะเน้นไปที่ธุรกิจที่มีศักยภาพและส่งเสริม ต่อยอดธุรกิจหลักของบริษัท รวมทั้งบริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการพิจารณาทางเลือกในการลงทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในกรณีท้ายที่สุดบริษัทฯไม่ได้เข้าลงทุนในตึกออฟฟิศ showroom และโกดังสินค้า บริษัทฯมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงโดยการต่อสัญญาเช่าสำนักงานและโกดังเดิม
สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้น LTS ในเดือนกรกฎาคม 2567 พบว่า ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 18.29% จากราคา 8.10 บาท ปรับลดลงมาอยู่ที่ 6.70 บาท
นอกจากนี้ หากพิจารณาที่โครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2567 พบว่า "สถาพร งามเรืองพงศ์" หรือเซียนฮง ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 5 ยังคงถือครองหุ้นในสัดส่วนเท่าเดิมที่จำนวน 4,000,000 หุ้นคิดเป็น 1.94%
โดยได้รับเงินสุทธิรวม 154.02 ล้านบาท และมีวัตถุประสง์การใช้เงินตามหนังสือชี้ชวน จะนำเงินไปใช้เพื่อเป็นทุนหมุนเวียน 100 ล้านบาทระยะเวลาที่ใช้เงินปี 2567-2568 และเพื่อใช้ลงทุนในตึกออฟฟิศ Showroom และโกดังสินค้า 54.02 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทได้พิจารณาสถานการณ์เศรษฐกิจและแผนงบประมาณของรัฐบาลที่มีการเบิกจ่ายล่าช้า รวมถึงโอกาสทางธุรกิจในภาคเอกชน โดยเฉพาะด้าน IT Solution จึงเล็งเห็นว่า วัตถุประสงค์การใช้เงินปัจจุบันมีข้อจำกัดที่ส่งผลต่อการสร้างประโยชน์และผลตอบแทนที่สูงสุดต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในเรื่องของข้อจำกัดของโครงการถูกระบุไว้ที่มีความยืดหยุ่นน้อยหากเกิดความล่าช้าในโครงการต่างๆ
บริษัทฯจึงมีความตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินให้มีความยืดหยุ่นและสอดรับแผนธุรกิจโดยรวมและสถานการณ์ท่ามกลางเศรษฐกิจ ลดความเสี่ยงทางธุรกจ เพิ่มศักยภาพ และสร้างโอกาสการเติบโต และมูลค่าของบริษัท โดยจะใช้เป็นเงินทุนในการประกอบธุรกิจด้านหลอดไฟและอุปกรณ์ส่องสว่างกับลูกค้าทุกกลุ่ม และรวมถึงธุรกิจ IT Solution
โดยการเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้การใช้เงินมีความยืดหยุ่นสอดรับกับแผนและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ บริษัทฯจึงปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้เงิน โดยเพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจในการจัดหาสินค้าสำหรับโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ สวนสาธารณะอัจฉริยะ โครงการ Smart pole โครงการ smart city และ smart streel light จากเดิม 100 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงเป็น 25 ล้านบาท และตัดเงินลงทุนเพื่อใช้ลงทุนในตึกออฟฟิศ showroom และโกดังสินค้าออกไป
ขณะที่นำเงินไปเพื่อใช้เงินทุนในการดำเนินธุรกิจในการจัดหา อุปกรณ์ด้านหลอดไฟและอุปกรณ์ส่องสว่าง กับลูกค้าทุกกลุ่ม และรวมถึงธุรกิจIT Solution ทั้งการซื้อสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องและการสนับสนุนการประกอบธุรกิจทางด้านหลอดไฟและอุปกรณ์ส่องสว่าง
ทั้งนี้แผนการใเงินโดยบริษัทฯจะเน้นไปที่ธุรกิจที่มีศักยภาพและส่งเสริม ต่อยอดธุรกิจหลักของบริษัท รวมทั้งบริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการพิจารณาทางเลือกในการลงทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในกรณีท้ายที่สุดบริษัทฯไม่ได้เข้าลงทุนในตึกออฟฟิศ showroom และโกดังสินค้า บริษัทฯมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงโดยการต่อสัญญาเช่าสำนักงานและโกดังเดิม
สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้น LTS ในเดือนกรกฎาคม 2567 พบว่า ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 18.29% จากราคา 8.10 บาท ปรับลดลงมาอยู่ที่ 6.70 บาท
นอกจากนี้ หากพิจารณาที่โครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2567 พบว่า "สถาพร งามเรืองพงศ์" หรือเซียนฮง ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 5 ยังคงถือครองหุ้นในสัดส่วนเท่าเดิมที่จำนวน 4,000,000 หุ้นคิดเป็น 1.94%
โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ LTS ประกอบด้วย
นาย ภัฏ ตรัสโฆษิต ถือหุ้นจำนวน 79,590,000 หุ้น คิดเป็น 38.52%
นาย กิตติพงษ์ วิมลโนช ถือหุ้นจำนวน 46,238,000 หุ้น คิดเป็น 22.38 %
น.ส. สุวิมล เชาวนโยธิน ถือหุ้นจำนวน 14,066,200 หุ้น คิดเป็น 6.81 %
นาย อวิรุทธ์ งามศิลปเสถียร ถือหุ้นจำนวน4,548,000 หุ้น คิดเป็น 2.20 %
นาย สถาพร งามเรืองพงศ์ ถือหุ้นจำนวน 4,000,000 หุ้น คิดเป็น 1.94 %
น.ส. พรทิพย์ ตันสิริธเนศ ถือหุ้นจำนวน 3,971,800 หุ้น คิดเป็น 1.92%
นาย ทวีศักดิ์ วีระประเสริฐ ถือหุ้นจำนวน 3,950,000 หุ้น คิดเป็น 1.91%
นาย รัฐวงษ์ พสวงศ์ ถือหุ้นจำนวน 3,832,000 หุ้น คิดเป็น 1.85 %
น.ส. ชนิกานต์ เลิศชวลิตานนท์ ถือหุ้นจำนวน 3,196,000 หุ้น คิดเป็น 1.55%
นาย อัฏฐพล สิทธิพงศ์ธนกุล ถือหุ้นจำนวน 2,700,000 หุ้น คิดเป็น 1.31%