Talk of The Town

เปิดรายได้ “โอ้กะจู๋” ไอพีโอน้องใหม่ ปี 66 รายได้แตะ 1.7 พันลบ.-กำไรพุ่ง 267% เทรดวันแรก ผถห.ใหญ่ โยนบิ๊กล็อตให้กลุ่ม OR


01 สิงหาคม 2567
เกาะติดหุ้น IPO สายรักสุขภาพ สำหรับบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ เจ้าของธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพแบรนด์ “โอ้กะจู๋” ล่าสุดสำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งแล้ว โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 159.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 26.1 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลัง IPO 

S2T (เว็บ) เปิดรายได้ “โอ้กะจู๋” ไอพีโอน้องให_0.jpg

ทั้งนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ไปใช้ในการขยายสาขา สร้างครัวกลางแห่งใหม่ เพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจ

ผลการดำเนินงานตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2564 – 2566) มีการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยปี 2564 มีรายได้รวม 803.0 ล้านบาท จากนั้นปี 2565 เพิ่มเป็น 1,214.9 ล้านบาท และปี 2566 เพิ่มขึ้นสู่ 1,716.8 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 46.2% 

โดยมาจากการเติบโตของรายได้สาขาเดิมและรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาใหม่ ประกอบกับการเติบโตของรายได้จากช่องทางการจำหน่ายอื่น ๆ ขณะที่งวดไตรมาส 1/2567 มีรายได้รวม 538.4 ล้านบาท เติบโต 48.2% จากงวดเดียวกันในปีก่อนหน้า

ในแง่ของกำไรสุทธิก็เช่นกัน แม้ในปี 2564 มีผลขาดทุนสุทธิ 84.55 ล้านบาท แต่ปี 2565 พลิกมีกำไรสุทธิ 38.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสาขาเดิมที่กลับมาเปิดให้บริการเป็นปกติ และการเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติม  

ส่วนปี 2566 กำไรสุทธิเพิ่มเป็น  140.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 267% ซึ่งเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสาขาเดิม และรายได้จากการเปิดสาขาใหม่จำนวน 11 สาขา ประกอบกับการเติบโตของรายได้จากช่องทางการจำหน่ายอื่นๆ และล่าสุดไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิ 42.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

OKJ คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปีนี้ โดยผู้ถือหุ้นของบริษัทได้แก่ 1. นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล 2. นายจิรายุทธ ภูวพูนผล และ 3. นายวรเดช สุชัยบุญศิริ (รวมเรียกว่า ผู้ร่วมก่อตั้ง) และบริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด (Modulus) (บริษัทย่อยร้อยละ 100.0 ของ OR) 

โดย Modulus มีความประสงค์ที่จะซื้อหุ้นสามัญเดิมจากผู้ร่วมก่อตั้งจำนวนรวม 31,800,000 หุ้น ในราคาเดียวกับราคาเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้ ในวันแรกที่หุ้นสามัญของบริษัทฯ เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ

ซึ่งการซื้อหุ้นดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อคงสัดส่วนการถือหุ้นของ Modulus ก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกนี้ (การขายหุ้นสามัญเดิมดังกล่าวไม่เป็นส่วนหนึ่งของการเสนอขายหุ้น IPO)

แล้วถ้าอนาคตกลุ่ม OR อยากขายหุ้นออก? โดยรายละเอียดระบุไว้ด้วยว่า หาก Modulus หรือ OR มีความประสงค์จะขายหุ้นของบริษัทฯ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนที่ Modulus ถืออยู่ (ยกเว้นการขายหุ้นให้แก่บริษัทในเครือของ OR) Modulus จะต้องเสนอขายผู้ร่วมก่อตั้งเพื่อให้สิทธิผู้ร่วมก่อตั้งในการปฏิเสธก่อน (Right of First Refusal) 

หากผู้ร่วมก่อตั้งปฏิเสธการซื้อหุ้นของบริษัทฯ ดังกล่าว หรือไม่ตอบกลับภายในระยะเวลาที่กำหนด Modulus จึงสามารถเสนอขายให้กับบุคคลภายนอกได้ในเงื่อนไขและราคาที่ไม่ต่ำกว่าที่เสนอให้กับผู้ร่วมก่อตั้ง 

ในกรณีที่ ผู้ร่วมก่อตั้งต้องการใช้สิทธิซื้อหุ้นของบริษัทที่ Modulus เสนอขายแค่บางส่วน   Modulus จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุด (Best Effort) ในการเจรจากับนักลงทุนที่สนใจซื้อ (Potential Buyer) เพื่อขายหุ้นของบริษัทฯ ในสัดส่วนที่เหลือจากที่ผู้ร่วมก่อตั้งต้องการ 

หาก Modulus ไม่สามารถเจรจากับนักลงทุนที่สนใจซื้อได้ Modulus มีสิทธิขายหุ้นของบริษัททั้งหมดที่ Modulus ต้องการขายในครั้งแรกให้แก่นักลงทุนที่สนใจซื้อได้ 

สำหรับ OR ซึ่งมีการลงทุนในธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม OR ได้เข้าทำสัญญาห้ามแข่งขันทางธุรกิจกับบริษัทฯ เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น