Wealth Sharing

Temu แอปดังจีน ภัยคุกคาม SMEs และผู้ผลิตไทย รับแรงกระแทก สู้สินค้าต้นทุนต่ำไม่ไหว


01 สิงหาคม 2567
Temu แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีน ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลก เนื่องจาก สินค้าราคาถูก ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการรายอื่นลดลง 

WS (เว็บ) Temu แอปดังจีน.jpg

ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างมองเป็นเสียงเดียวกันว่า การเข้ามาบุกตลาดประเทศไทยของ Temu มีผลเสียอย่างสิ้นเชิง อาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทย รวมทั้งซ้ำเติมผู้ประกอบการ SME อีกด้วย

โดยนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ประเมินประเด็น Temu ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายออนไลน์อีคอมเมิร์ซของจีน เปิดตัวธุรกิจนี้ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา 

โดยนำเสนอสินค้าราคาถูกและไม่มีแบรนด์สินค้าโดยตรงจากผู้ผลิตที่มีประสิทธิภาพด้านต้นทุนในประเทศจีนถึงมือลูกค้าโดยไม่ต้องผ่านคนกลาง พร้อมบริการจัดส่งและคืนสินค้าฟรี

ฝ่ายวิจัยประเมินว่า Temu จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับตลาดซื้อขายออนไลน์ที่มีอยู่แล้วในไทย ได้แก่ Shopee, Lazada และ TikTok ในแง่ของผลิตภัณฑ์และราคา

อย่างไรก็ตาม อาจมีสินค้าบางส่วนทับซ้อนหรือมีสินค้าทดแทนราคาถูกกว่ากับโมเดิร์นเทรดอุปกรณ์ปรับปรุงตกแต่งบ้าน เช่น สินค้าพลาสติกในครัวเรือน และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก 

แต่เราไม่คิดว่าผลกระทบจะมีนัยสำคัญ เนื่องจากยอดขายเฮ้าส์แบรนด์มีสัดส่วนอยู่ที่ 19% สำหรับ DOHOME, 20% สำหรับ HomePro, 21% สำหรับ Mega Home และ 23% สำหรับ GLOBAL จากสัดส่วนยอดขายเฮ้าส์แบรนด์ดังกล่าว ประมาณ 45-90% เป็นสินค้าที่นำเข้าจากจีน และ 70-80% เป็นสินค้าขนาดใหญ่ เช่น วัสดุก่อสร้าง กระเบื้องเซรามิก และเครื่องสุขภัณฑ์ ซึ่งปกติไม่ได้ขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์

แต่การมาของ Temu เป็นภัยคุกคามต่อ SMEs/ผู้ผลิตของไทย เนื่องจากพวกเขาแทบจะไม่สามารถแข่งขันกันเรื่องต้นทุนสินค้าที่ต่ำได้ ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อของไทย

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มอง TEMU เปิดตัวเป็นผู้ให้บริการ E-Commerce รายใหม่ในไทย โดยมี Platform ที่มีจุดเด่นการขายสินค้าข้ามพรมแดนหลากหลายประเภท พร้อมส่วนลดสูงสุด 90% ขณะที่มีจุดเด่นการส่งสินค้าอย่างรวดเร็วนั้น

ฝ่ายวิจัยมองเป็นลบอ่อนๆ จากภาวะปัจจุบันที่ปัจจุบันจีนมีประเด็นการผลิตสูงกว่าความต้องการภายใน ทำให้ต้องการส่งออกสินค้าในราคาถูก ทิศทางดังกล่าวนักวิเคราะห์พื้นฐาน มองการแข่งขันในกลุ่มค้าปลีกระยะสั้นอาจสูงขึ้น 

โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าแฟชั่นและของใช้ภายในบ้าน อาทิ CRC, HMPRO, ILM, GLOBAL, DOHOME ทั้งนี้ ระยะสั้นเชิงกลยุทธ์ หุ้นค้าปลีกที่น่าสนใจ เรายังมองกลุ่มที่มีน้ำหนักจำหน่ายสินค้าดังกล่าวต่ำ อาทิ CPALL, CPAXT, BJC ก่อน