สำหรับนโยบายอัตราดอกเบี้ยจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงมาเป็นระยะเวลานาน แต่ล่าสุด นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. นี้ ซึ่งทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯรวมถึงไทยเริ่มอ่อนตัวลง
แม้ว่าปัจจัยดังกล่าวอาจจะเป็นข่าวดีต่อตลาดหุ้นในหลายๆประเทศ แต่ภายใต้ความผันผวนของตลาดหุ้นไทยก็อาจทำให้นักลงทุนกังวลที่จะลงทุนในหุ้นรายตัวและหาโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ยาก ดังนั้น อีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนได้สม่ำเสมออย่าง “กองรีท” ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดี
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า แนวโน้มที่ชัดเจนมากขึ้นของการลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในการประชุมเฟดครั้งหน้าในเดือน ก.ย. ประกอบกับหุ้นไทยหลายตัวให้เงินปันผลที่ดีสำหรับรอบครึ่งปีแรกปี 67 รวมทั้งกองทุน REIT, IFF ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูง จะส่งผลให้หุ้น Yield Play ปรับตัวได้ดีกว่าตลาด
ทั้งนี้ ทางเรายังได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกองรีทที่ความน่าสนใจในด้านอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงเป็น 5 อันดับแรก เริ่มกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ หรือ QHPF ที่ลงทุน leasehold ในโครงการคิวเฮ้าส์ ลุมพินี โครงการเวฟ เพลส และโครงการคิวเฮ้าส์ เพลินจิต ซึ่งให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 17.02%
ต่อมาเป็น กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง ออฟฟิศ หรือ B-WORK ลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารสำนักงานและพื้นที่เกี่ยวข้องของโครงการทรู ทาวเวอร์ 1 และทรู ทาวเวอร์ 2 ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 15.82%
ถัดมากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ หรือ GVREIT ที่จะลงทุนในสิทธิการเช่าพื้นที่บางส่วนในอาคาร ปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ และสิทธิการเช่าช่วงที่ดินและอาคาร สาทร สแควร์ โดยให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 15.25%
กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอส ไพรม์ โกรท หรือ SPRIME โดยจะลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและโครงการซันทาวเวอร์ส รวมไปถึงสิทธิการเช่าพื้นที่ค้าปลีกและสิทธิการเช่าพื้นที่ส่วนกลางส่วนที่เหลือจากการลงทุนของกองทรัสต์ในทรัพย์สินของโครงการซันทาวเวอร์สครั้งก่อน ซึ่งผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 15.05%
และสุดท้าย กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล หรือ ALLY ที่จะลงทุนในกรรมสิทธิและสิทธิการเช่า รวมไปถึงสิทธิการเช่าช่วงใน 14 โครงการ สำหรับการให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลจะอยู่ที่ 14.54%
ทั้งนี้ 14 โครงการที่ได้ลงทุน ได้แก่ 1.คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ 2.เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา 3.เดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ 4.อมอรินี่ 5.แอมพาร์ค 6.เพลินนารี่ มอลล์ 7.สัมมากรเพลส รามคำแหง 8.สัมมากรเพลส รังสิต 9.สัมมากรเพลส ราชพฤกษ์ 10.เดอะ ซีน 11.กาดฝรั่ง วิลเลจ 12.เดอะ คริสตัล ชัยพฤกษ์ 13.เดอะ ไพร์ม หัวลำโพง 14.แฮปปี้ อเวนิว ดอนเมือง
แม้ว่าปัจจัยดังกล่าวอาจจะเป็นข่าวดีต่อตลาดหุ้นในหลายๆประเทศ แต่ภายใต้ความผันผวนของตลาดหุ้นไทยก็อาจทำให้นักลงทุนกังวลที่จะลงทุนในหุ้นรายตัวและหาโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ยาก ดังนั้น อีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนได้สม่ำเสมออย่าง “กองรีท” ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดี
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า แนวโน้มที่ชัดเจนมากขึ้นของการลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในการประชุมเฟดครั้งหน้าในเดือน ก.ย. ประกอบกับหุ้นไทยหลายตัวให้เงินปันผลที่ดีสำหรับรอบครึ่งปีแรกปี 67 รวมทั้งกองทุน REIT, IFF ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูง จะส่งผลให้หุ้น Yield Play ปรับตัวได้ดีกว่าตลาด
ทั้งนี้ ทางเรายังได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกองรีทที่ความน่าสนใจในด้านอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงเป็น 5 อันดับแรก เริ่มกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ หรือ QHPF ที่ลงทุน leasehold ในโครงการคิวเฮ้าส์ ลุมพินี โครงการเวฟ เพลส และโครงการคิวเฮ้าส์ เพลินจิต ซึ่งให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 17.02%
ต่อมาเป็น กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง ออฟฟิศ หรือ B-WORK ลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารสำนักงานและพื้นที่เกี่ยวข้องของโครงการทรู ทาวเวอร์ 1 และทรู ทาวเวอร์ 2 ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 15.82%
ถัดมากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ หรือ GVREIT ที่จะลงทุนในสิทธิการเช่าพื้นที่บางส่วนในอาคาร ปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ และสิทธิการเช่าช่วงที่ดินและอาคาร สาทร สแควร์ โดยให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 15.25%
กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอส ไพรม์ โกรท หรือ SPRIME โดยจะลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและโครงการซันทาวเวอร์ส รวมไปถึงสิทธิการเช่าพื้นที่ค้าปลีกและสิทธิการเช่าพื้นที่ส่วนกลางส่วนที่เหลือจากการลงทุนของกองทรัสต์ในทรัพย์สินของโครงการซันทาวเวอร์สครั้งก่อน ซึ่งผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 15.05%
และสุดท้าย กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล หรือ ALLY ที่จะลงทุนในกรรมสิทธิและสิทธิการเช่า รวมไปถึงสิทธิการเช่าช่วงใน 14 โครงการ สำหรับการให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลจะอยู่ที่ 14.54%
ทั้งนี้ 14 โครงการที่ได้ลงทุน ได้แก่ 1.คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ 2.เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา 3.เดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ 4.อมอรินี่ 5.แอมพาร์ค 6.เพลินนารี่ มอลล์ 7.สัมมากรเพลส รามคำแหง 8.สัมมากรเพลส รังสิต 9.สัมมากรเพลส ราชพฤกษ์ 10.เดอะ ซีน 11.กาดฝรั่ง วิลเลจ 12.เดอะ คริสตัล ชัยพฤกษ์ 13.เดอะ ไพร์ม หัวลำโพง 14.แฮปปี้ อเวนิว ดอนเมือง