Wealth Sharing
เปิด 3 หุ้นยกระดับย้ายเทรด mai ไป SET 7 เดือนแรกพบ" DITTO -SE - IP" ล่าสุด IP ซื้อขายวันแรกราคาขยับ 2.89%
02 สิงหาคม 2567
จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่า ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา มีหุ้นที่ขอย้ายกระดานซื้อขายหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ไปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีจำนวน 3 หุ้นประกอบด้วย
หุ้น DITTO โดยได้ย้ายกระดานเทรด เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
หุ้น SE โดยได้ย้ายกระดานเทรด เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม/ วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร
หุ้น IP โดยได้ย้ายกระดานเทรด เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ในกลุ่มของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์
ทั้งนี้การเคลื่อนไหวราคาหุ้นหลังจากที่ได้ย้ายกระดานจาก mai มายัง SET พบว่า ราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ตั้งแต่วันแรก จนถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 โดยหุ้นDITTO จากราคาปรับลดลง 55.71% หุ้นSE ปรับลดลง 17.50% ขณะที่หุ้นIP เปิดซื้อขายวันแรกในSET วันที่ 1 สิงหาคม 2567 ราคาขยับขึ้นแค่ 2.89%
บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) IP ประกอบธุรกิจ การพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์
ในปี 2567 บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา แบ่งโครงสร้างธุรกิจใหม่ออกเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มธุรกิจลูกค้าโรงพยาบาล (Hospital Market), 2.กลุ่มธุรกิจลูกค้าผู้บริโภค (Consumer Market), 3.กลุ่มธุรกิจดูแลและส่งเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ (Animal Healthcare), 4.กลุ่มธุรกิจร้านขายยาภายใต้แบรนด์ “Lab Pharmacy” และ5.กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลและคลีนิค (Hospital Business)
ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP กล่าวว่า บริษัทฯได้รับอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการย้ายหุ้นสามัญของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กลุ่มอุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค หมวดธุรกิจของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ จากกลุ่มอุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป
โดยการย้ายกระดานเข้าเทรดในตลาด SET ครั้งนี้ จะช่วยยกระดับองค์กรเข้าสู่แหล่งระดมทุนระยะยาวที่มีศักยภาพ เพิ่มโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ถือหุ้น, นักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งในด้านผลการดำเนินงาน และการกำกับดูแลกิจการที่ดี อีกทั้งยังเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหลักทรัพย์มากขึ้น ตลอดจนทำให้บริษัทฯ รวมถึงผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักของสาธารณชนมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสในการหา และเข้าร่วมลงทุนของพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเป็นการเตรียมรองรับแผนนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Spin-off) เบื้องต้นเตรียมยื่นคำขอเพื่อเสนอขายหุ้น (ไฟลิ่ง) บริษัทลูก “Lab Pharmacy” ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ช่วงต้นปี 2568 ก่อนจะยื่นไฟลิ่งโรงพยาบาลนครพัฒน์ในปี 2569 ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคตได้เป็นอย่างดี