นายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) เปิดเผยว่า IRPC ได้ประกาศการลงทุนใน บริษัท คลีนเทค แอนด์ บียอนด์ จำกัด (Cleantech & Beyond) โดยการลงทุนในครั้งนี้เป็นการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา หรือ Intellectual Property (IP) ของ IRPC ซึ่งเกิดจากงานวิจัยที่ทำงานร่วมกับ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) มาแปลงเป็นหุ้นเพิ่มทุนในสัดส่วนร้อยละ 27.3 ใน บริษัท คลีนเทค แอนด์ บียอนด์ จำกัด ซึ่งการลงทุนนี้นอกจากสอดคล้องตามแผนกลยุทธ์ เพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ในบริษัท Startup ต่อยอดธุรกิจ สร้างความเติบโตเข้มแข็งให้กับบริษัทฯ แล้วยังสอดคล้องกับแผนสร้างการเติบโตในระยะยาวและตอบโจทย์เมกะเทรนด์ ด้วยนวัตกรรมด้านวัสดุ ขั้นสูง (Advance materials) สำหรับอุตสาหกรรมบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) อาทิ ใช้ติดเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ เพื่อป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ หรือความเสียหายของอุปกรณ์ และอุตสาหกรรมด้านการขนส่งสินค้า (Logistic) โดยใช้ติดกับสินค้าที่ต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิต่ำ เช่น ไวน์ อาหาร และวัคซีน เป็นต้น
นายกฤษณ์ กล่าวว่า “เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติ การเข้าลงทุนในบริษัท Cleantech & Beyond การเข้าถือหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะขยายการเติบโตและต่อยอดทางธุรกิจให้กับบริษัทฯ สามารถนำผลงานวิจัยมาใช้ ให้เกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์ ผ่านกลไกการลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Startup อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสเข้าไปในระบบนิเวศของ Startup เพื่อเชื่อมต่อความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ นำไปสู่ความก้าวหน้าในกลยุทธ์การลงทุนแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ของบริษัทฯ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุและพลังงานเพื่อชีวิตที่ลงตัว”
สำหรับบริษัท คลีนเทค แอนด์ บียอนด์ จำกัด (Cleantech & Beyond) เป็นบริษัท Startup ที่เกิดจากงานวิจัยร่วมกันระหว่าง IRPC กับสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Digital Temperature Indicator (DTI) ที่สามารถตรวจจับอุณหภูมิ และแสดงผลด้วยการเปลี่ยนแปลงสีเมื่ออุณหภูมิเกินค่าที่กำหนด โดยเชื่อมต่อกับระบบ RFID (Radio Frequency Identification) ทำให้สามารถตรวจสอบวัตถุแบบกลุ่ม (Bulk Level) ได้ในครั้งเดียว และที่สำคัญไม่สามารถย้อนกลับได้ ถือว่าเป็น Data Logger ประเภทหนึ่ง ที่ช่วยตรวจสอบติดตามสภาวะการทำงานของอุปกรณ์ สินค้า และวัตถุรายชิ้น (item - level) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคุณสมบัติการเชื่อมต่อแบบไร้สาย (Wireless communication) และการทำงานโดยไม่ต้องอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ ปัจจุบันนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) และอุตสาหกรรมด้านการขนส่งสินค้า (Logistic) โดย Cleantech & Beyond ถือเป็นผู้นำเทคโนโลยีรายแรกด้าน Wireless and Battery less Digital Temperature Indicator