จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : PTG ไตรมาส2/67เติบโตโดดเด่น ธุรกิจฟื้นทั้งน้ำมัน และ Non-oil


06 สิงหาคม 2567
โบรกเกอร์คาดการณ์ผลงาน บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ไตรมาส 2/67  ปรับตัวดีขึ้นทั้งธุรกิจน้ำมัน และไม่ใช่น้ำมัน แนะนำ “ซื้อ” 

รายงานพิเศษ PTG ไตรมาส 2 67 เติบโตโดดเด่น.jpg

การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา  ยังมีมติคงนโยบายการผลิตของโอเปกพลัส  ส่งผลให้โอเปกพลัสยังคงปรับลดกำลังการผลิตรวม 5.86 ล้านบาร์เรล/วัน  มาจากการปรับลดกำลังการผลิตของสมาชิกโอเปกพลัสจำนวน 3.66 ล้านบาร์เรล/วัน และการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจของสมาชิกโอเปกพลัส 8 ชาติจำนวน 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน

การผลิตน้ำมันที่ลดลงส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับที่สูง  ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ โดยเฉพาะบมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ผู้ให้บริการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน(oil)  และธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับน้ำมัน (Non oil)  

ซึ่งบล.กรุงศรี คาด PTG มีกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 ราว 422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 281% จากปีก่อน และ เพิ่มขึ้น64% จากไตรมาสก่อน ซึ่งฟื้นทั้งธุรกิจ Oil และ Non-oil โดย 

i) ฝั่ง Oil สามารถขยายสาขาและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ หนุนปริมาณขาย เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน แต่ลดลง 1% จากไตรมาสก่อน รวมถึงภาครัฐผ่อนการคุมราคาดีเซลส่งให้ค่าการตลาดราว 1.72 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน ซึ่งฟื้นมาจากฝั่งของดีเซล 

ii)  Non-oil ปริมาณขาย LPG โตจากปีก่อน ตามการเจาะตลาดครัวเรือน และร้านกาแฟพันธุ์ไทยรายได้ เพิ่มขึ้น86% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อน ตามการขยายสาขา 46% จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน ชดเชยค่าโฆษณาและค่าการตลาดที่เพิ่มขึ้นได้

คาดกำไรปกติ ไตรมาส 3/67 โตจากปีก่อน เพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ หนุนปริมาณขายน้ำมัน เพิ่มขึ้น 14%ประกอบกับ Non oil เติบโตทั้ง LPG และ พันธุ์ไทย แต่จะลดลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝน ส่งให้การขับขี่น้อยลง คาดปริมาณขายน้ำมัน -6% จากไตรมาสก่อน ในขณะที่ค่าการตลาดทรงตัว (ราคาน้ำมันดิบลดลง แต่ไม่มีประโยชน์จากการขึ้นราคาดีเซลเหมือนไตรมาส 2/67

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิ 67-69 ราว 1-3% เป็น 1,169 ล้านบาท 1,419 ล้านบาท และ 1,758 ล้านบาท ตามลำดับ สะท้อนปริมาณขายน้ำมันที่ทำได้ดีกว่าคาด กลบค่าการตลาดที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดได้

คงคำแนะนำ Trading Buy ต่อ PTG ปรับราคาเป้าหมายปี 67 เป็น 10.1 บาท/หุ้น (เดิม 10.0) คงวิธี DCF; WACC 7.4% ระยะสั้นมองปัจจัยบวกจากกำไร 2Q24F ที่โตสูง y-y, q-q อาจถูกถ่วงจากความไม่แน่นอนของค่าการตลาดที่มาจากประเด็นกฏหมายคุมค่าการตลาดที่จะคืบหน้าในช่วงไตรมาส 4/67

ประกอบกับภาระชำระคืนเงินต้นของกองทุนน้ำมันราว 30,000 ลบ. ใน พ.ย. 24 อาจเสี่ยงที่ภาครัฐจะกลับมาแทรกแซงค่าการตลาด หากไม่สามารถขอให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันได้ รอดูความชัดเจนของกฏหมายก่อนได้ ค่อยเก็งกำไรการฟื้นในงวดปี 2568

ด้านบล.ทรีนีตี้  ระบุว่า คงราคาเป้าหมายที่ 9.5 บาท อิง Avg PER –0.5SD ที่ 15.5 เท่า และคงคําแนะนํา  Trading Buy ราคาหุ้นอาจจะยังเป็น Sideway ความเสี่ยงเรื่องกฎหมายบริหาร โครงสร้างราคา ซึ่งอาจจะส่งผลต่อ Margin ระยะสั้นเน้นเก็งกําไรตามผลประกอบการที่คาดว่าจะฟื้นตัว 

คาด PTG จะรายงานกําไรไตรมาส 2/67 ฟื้นตัวเด่นที่ 452  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 306 % จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 76% จากไตรมาสก่อน จากค่าการตลาดที่ปรับตัวโดดเด่น และธุรกิจ  Non-Oil 

เรายังคงประมาณการกำไรปี 2024 ที่ 1  พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน จากค่าการตลาดที่ระดับปกติ 1.7 บาทต่อลิตร และแนวโน้มไตรมาส 3/67 จะเป็น ช่วง Low Season หน้าฝน ปริมาณการใช้น้ำมันลดลง นอกจากนี้ระยะสั้นอาจจะมีความเสี่ยงเรื่องกฎหมายบริหารโครงสร้างราคาซึ่งอาจจะส่งผลต่อ Margin ต่อลิตรของบริษัทได้
PTG