Wealth Sharing
ยุบ “พรรคก้าวไกล”? นักวิเคราะห์ชี้ ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ไม่กระทบการบริหารประเทศของรัฐบาล
07 สิงหาคม 2567
เกาะติดสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด! วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของพรรคก้าวไกล กับประเด็นวินิจฉัยให้ ยุบพรรคก้าวไกล ล่าสุดนักวิเคราะห์มีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาทวงไหน ไม่น่าจะส่งผลต่อการบริหารประเทศของรัฐบาล แต่ถ้าผลออกมาไม่ยุบ คาดฝ่ายค้านในสภาน่าร้อนแรงมากขึ้น
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (7 ส.ค.) ติดตามการวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล โดยประเมินความชัดเจนของการเมืองจะสร้างจิตวิทยาบวกให้กับตลาด โดยในส่วนคำวินิจฉัยกรณีพรรคก้าวไกล มองไม่ว่าจะออกมาในกรณีใดน่าจะส่งผลกระทบต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลที่จำกัด แต่กรณียุบพรรคมองต้องติดตามความเสี่ยงการเมืองนอกสภาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ยังให้น้ำหนักประเด็นดังกล่าวต่ำกว่าเรื่องคุณสมบัตินายกที่มีจะการวินิจฉัยสัปดาห์หน้า ที่คาดจะมีผลต่อความราบรื่นในการบริหารประเทศรัฐบาลมากกว่า หากศาลตัดสินให้นายกฯ พ้นจากตำแหน่ง
เช่นเดียวกันกับนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า แม้จะเป็นปัจจัยหลัก ทางการเมือง แต่จะไม่กระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาล โดยมองการอ่านคำวินิจฉัยกรณีถอดถอนนายกฯ วันที่ 14 ส.ค. จะมีผลต่อเศรษฐกิจ และ SET มากกว่า
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด มองว่า แนวทางคำตัดสินที่เกิดขึ้นได้มีอยู่ 3 แนวทาง ดังนี้
1. หากศาลมีคำวินิจฉัยให้ ยุบพรรคก้าวไกล สส.ภายในพรรค สามารถย้าย พรรคได้ภายใน 60 วัน ซึ่งเห็นว่าไม่ได้ทำให้เกิด DOWNSIDE ให้กับคะแนนเสียงพรรคร่วมรัฐบาล
2.หากศาลนัดฟังคำวินิจฉัยแล้ว ไม่ยุบพรรคก้าวไกล ท่าทีของพรรคฝ่ายค้าน ทางสภาฯ ก็น่าจะดูร้อนแรงและแข็งแกร่งมากขึ้น
3.หากศาลนัดฟังคำวินิจฉัยแล้ว ไม่ยุบพรรคก้าวไกล แต่ศาลอาจตัดสิน ความผิด ม.112 จากสส.ในพรรคแทน ซึ่งอาจทำให้ ส.ส. บางส่วนถูกตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งต้องติดตามวันนี้ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (7 ส.ค.) ติดตามการวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล โดยประเมินความชัดเจนของการเมืองจะสร้างจิตวิทยาบวกให้กับตลาด โดยในส่วนคำวินิจฉัยกรณีพรรคก้าวไกล มองไม่ว่าจะออกมาในกรณีใดน่าจะส่งผลกระทบต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลที่จำกัด แต่กรณียุบพรรคมองต้องติดตามความเสี่ยงการเมืองนอกสภาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ยังให้น้ำหนักประเด็นดังกล่าวต่ำกว่าเรื่องคุณสมบัตินายกที่มีจะการวินิจฉัยสัปดาห์หน้า ที่คาดจะมีผลต่อความราบรื่นในการบริหารประเทศรัฐบาลมากกว่า หากศาลตัดสินให้นายกฯ พ้นจากตำแหน่ง
เช่นเดียวกันกับนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า แม้จะเป็นปัจจัยหลัก ทางการเมือง แต่จะไม่กระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาล โดยมองการอ่านคำวินิจฉัยกรณีถอดถอนนายกฯ วันที่ 14 ส.ค. จะมีผลต่อเศรษฐกิจ และ SET มากกว่า
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด มองว่า แนวทางคำตัดสินที่เกิดขึ้นได้มีอยู่ 3 แนวทาง ดังนี้
1. หากศาลมีคำวินิจฉัยให้ ยุบพรรคก้าวไกล สส.ภายในพรรค สามารถย้าย พรรคได้ภายใน 60 วัน ซึ่งเห็นว่าไม่ได้ทำให้เกิด DOWNSIDE ให้กับคะแนนเสียงพรรคร่วมรัฐบาล
2.หากศาลนัดฟังคำวินิจฉัยแล้ว ไม่ยุบพรรคก้าวไกล ท่าทีของพรรคฝ่ายค้าน ทางสภาฯ ก็น่าจะดูร้อนแรงและแข็งแกร่งมากขึ้น
3.หากศาลนัดฟังคำวินิจฉัยแล้ว ไม่ยุบพรรคก้าวไกล แต่ศาลอาจตัดสิน ความผิด ม.112 จากสส.ในพรรคแทน ซึ่งอาจทำให้ ส.ส. บางส่วนถูกตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งต้องติดตามวันนี้ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร