JMART ตามนัด! กำเงิน 2,500 ล้านบาท เตรียมชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด ก.ย. 67 นี้ ย้ำฐานทุนแกร่ง เงินปันผลรับ-กระแสเงินสดในมือเพียงพอ

JMART พร้อมชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนกันยายน 2567 นี้ แม้ภายใต้สถานการณ์ภาพรวมตลาดหุ้นกู้ที่ส่งผลต่อความกังวลของผู้ลงทุน สามารถระดมทุนหุ้นกู้ได้รวม 1,353 ล้านบาท ด้าน JMART เน้นย้ำ บริษัทมีเงินสดเพียงพอสำหรับการจ่ายคืนหุ้นกู้ โดยมีแหล่งเงินจะมาจากเงินปันผลที่จะได้รับจากบริษัทย่อย และบริษัทที่ลงทุนอีก 650 ล้านบาท และเงินสดในบริษัทอีก 800 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะคืนหุ้นกู้ ในช่วงต้นเดือนกันยายน 2567 นี้ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่การรักษากระแสเงินสด นอกจากนี้ ยังมีแหล่งเงินทุนสำรองจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์ที่อยู่ในความต้องการของตลาดอีกกว่า 1,900 ล้านบาท เงินทุนพร้อมเพียงพอในอนาคต

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) เปิดเผยว่า “บริษัทได้เตรียมเงินเพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด ในเดือนกันยายน 2567 นี้ พร้อมจ่ายคืนทั้งจำนวน 2,500 ล้านบาท ภายหลังจากสามารถระดมทุนหุ้นกู้รอบล่าสุดได้ตามแผน ซึ่งล่าสุด JMART ออกหุ้นกู้ 2 ชุด โดยใช้หุ้น JMT เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 6-8 สิงหาคมที่ผ่านมา เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ รวมมูลค่า 1,353 ล้านบาท ส่วนหนึ่งนำไปใช้เตรียมจ่ายคืนหุ้นกู้ และอีกส่วนหนึ่งไว้ สำรองเป็นกระแสเงินสด

นอกจากนี้ JMART ยังมีแหล่งสำรองกระแสเงินสด มาจากเงินปันผลรับจากบริษัทย่อยที่จะได้รับในช่วงสิงหาคม – ต้นเดือน กันยายน 2567 นี้ ที่บริษัทได้ถือหุ้นอยู่ตามการวางแผนกระแสเงินสด รวมประมาณกว่า 650 ล้านบาท และเงินสดสำรองที่มีอยู่ในบริษัทอีก 800 ล้านบาท สะท้อนกระแสเงินสดยังคงเพียงพอ และยังแข็งแกร่ง ซึ่งหากรวม กับเงินสดนี้ เพียงพอต่อการจ่ายคืนหุ้นกู้ อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี JMART พร้อมเดินหน้าขยายการเติบโตตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ทั้งในธุรกิจ ค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี เน้นย้ำการรักษากระแสเงินสด เพื่อเตรียมพร้อมต่อสถานการณ์ตลาดทุน โดย JMART มีสินทรัพย์ในการลงทุนที่มีคุณภาพอีก ผ่านการลงทุนของบริษัทในเครือ อาทิ เจมาร์ท โมบาย สุกี้ ตี๋น้อย ซึ่งเป็นธุรกิจที่ยังคงสามารถเติบโตได้ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว และมีกระแสเงินสดที่เพียงพอ รวมถึงเงินลงทุนในหลักทรัพย์ที่อยู่ในความต้องการของตลาดอีกกว่า 1,900 ล้านบาท อาทิ การลงทุนใน PRTR, BRR, TURTLE และ BKD เป็นต้น จึงมั่นใจว่า บริษัทย่อย บริษัทร่วม และบริษัทที่เข้าไปลงทุนจะสร้างกระแสเงินสดให้ JMART มากขึ้น และส่งผลกำไรที่ดีต่องบรวมของบริษัทในปีนี้ ตามกลยุทธ์ที่วางไว้”

ทั้งนี้ ในวันที่ 8 สิงหาคม 2567 บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) ประกาศงบการเงินไตรมาส 2/2567 งบโตแรง มีกำไรสุทธิ 134 ล้านบาท มีสตอรี่ดีๆ ในแง่ของการเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง และคาดว่าทั้งกลุ่มเจมาร์ทจะประกาศงบการเงินปลายสัปดาห์นี้ และเตรียมจัด Opportunity Day วันที่ 13 สิงหาคม 2567 นี้ ตามแผน