รายงานพิเศษ : ผลงาน DMT ครึ่งหลังปี 67 แกร่ง อานิสงส์ 2 โครงการรัฐกระตุ้นท่องเที่ยว
ผลการดำเนินงาน บมจ.ดอนเมืองโทล์ลเวย์ (DMT) ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ยังมีความโดดเด่น โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยวทุ่มเงินงบประมาณ 433 ล้านบาท ผ่าน 2 โครงการหลัก หนุนจำนวนรถใช้ทางด่วนเติบโตต่อเนื่อง
ช่วงครึ่งปีหลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นรัฐมนตรีว่าการ วางแนวทางในการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน (Quick Win) จะส่งเสริมการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในครึ่งปีหลังผ่าน 2 โครงการหลัก ผ่านวงเงินงบประมาณ 433 ล้านบาท
ประกอบด้วย โครงการทำการตลาดการท่องเที่ยวไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในการเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทย และ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดด้วยการจัดกิจกรรมบนอัตลักษณ์ถิ่น มหกรรมเสน่ห์ไทย ใน 5 ภูมิภาค เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
นอกจากจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน (Quick Win) แล้ว ทั้ง 2 โครงการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังเป็นการเร่งสานต่อนโยบายรัฐบาล IGNITE Thailands Tourism โดยคาดว่าจะสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจโดยรวมไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท
ซึ่งการเดินทางท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี หนุนผลงาน บมจ.ดอนเมืองโทล์ลเวย์ (DMT) โดยบล.ทิสโก้ คาดกำไรสุทธิใน 2Q24F จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน จากปัจจัยทางฤดูกาล และคาด DMT จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 ที่ 255 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% จากปีก่อน จากปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นหลังการฟื้นตัวของ Covid-19 และภาคการท่องเที่ยวไทย
แต่อ่อนตัว 4.4% จากไตรมาสก่อนจากปัจจัยทางฤดูกาล เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวและช่วงปิดภาคเรียน โดยเราคาดรายได้ค่าผ่านทางอยู่ที่ 600 ล้านบาท (+8.4, -2.8% จากไตรมาสก่อน) คาดจำนวนรถใช้ทางยกระดับในไตรมาส2/67 อยู่ที่ 108,557 คันต่อวัน (+6.3% จากปีก่อน, -4.6% จากไตรมาสก่อน)
แบ่งเป็นจำนวนรถใช้ทางทางด่วนสัมปทานเดิม 68,660 คันต่อวัน ( +7%จากปีก่อน, -4.8% จากไตรมาสก่อน) และสัมปทานส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ 39,897 คันต่อวัน (+5% จากปีก่อน, -4.3% จากตามาสก่อน) สำหรับอัตราค่าผ่านทางเฉลี่ยต่อคันอยู่ที่ 60.70 บาท (+2% จากีก่อน, ทรงตัวจากตารมาสก่อน) สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ 63.6% จากเดิม 63.3% ในไตรมาสก่อนหน้า จากการบริหารด้านต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้เรายังคงประมาณการผลประกอบการ คาดปริมาณรถใช้ทางด่วนเติบโตต่อเนื่องจากกิจกรรมการเดินทางที่มากขึ้น โดยเราคาดจำนวนรถใช้ทางด่วนจะเติบโต 20% จากปีก่อน ในปี 2567 และคาดรายได้ค่าผ่านทางทั้งปี เติบโต 19% YoY อีกทั้ง บริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการ PPP ของภาครัฐ ซึ่งมีโครงการเป้าหมายคือโครงการ M82 (มอเตอร์เวย์ บางขุนเทียน) โครงการ M5 (อุตราภิมุข) และโครงการ M6/M81 (จุดพักรถ) เพื่อเพิ่มความยั่งยืนทางธุรกิจ
นอกจากนี้ DMT มีสถานะเงินสดสุทธิ ภาระหนี้สินต่ำทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลระดับสูง และตั้งเป้ารักษาระดับการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 1 บาทต่อหุ้น ด้วยอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ย 8% ต่อปี
ยังคงแนะนำ“ซื้อ” มีมูลค่าเหมาะสมที่ 14.30 บาท โดยคิดจากวิธิ Discount Cash Flow ด้วยสมมติฐาน WACC 9.2% โดยอิงจาก risk free rate ที่ 3.2% risk premium 6.4% Beta 1 และประเมินมูลค่าถึงสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2034 ปัจจัยเสี่ยงมาจากการไม่สามารถขึ้นค่าผ่านทางได้ และจำนวนรถใช้ทางด่วนที่ต่ำกว่าคาด