Smart Investment
เปิดผลตอบแทน 6 หุ้นทีวีดิจิทัล MONO ซิ่งไม่สนโลก! ย้อนหลัง 1 เดือน พุ่ง 52.63%
11 สิงหาคม 2567
Mr.Data
ภาพรวมผลตอบแทนการลงทุนตลาดหุ้นไทยในเดือนสิงหาคม ยังคงเผชิญปัจจัยลบรอบด้าน จากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มถดถอย กดดันบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลก ปัญหาความความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน สงครามในตะวันออกกลางที่กำลังลุกลามบานปลาย
ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศหลังยุบพรรคก้าวไกล ยังเหลือคดีนายกฯเศรษฐา ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในวันที่ 14 สิงหาคม ที่จะถึงนี้เห็นได้ว่าปัจจัยลบดังกล่าวกดดันบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทย นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิกว่า 1.2 แสนล้านบาท
ผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET) ตั้งแต่ต้นปี-วันที่ 8 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงกว่า 8.85% ดัชนีหลุด 1,300 จุด ลงมาอยู่ที่ระดับ 1,296.25 จุด
ภาพใหญ่ของตลาดหุ้นที่ปรับตัวพบลง แต่ยังมีหุ้นบริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) (MONO) ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ช่อง 29 ราคาพุ่งทะยานสูงกว่าดัชนีตลาด
โดย 1 เดือนย้อนหลัง ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 52.63% ปิดตลาดวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ที่ระดับ 1.45 บาท ขณะที่ราคาหุ้นย้อนหลัง 3 เดือน ต่ำสุดที่ 0.50 บาท และสูงสุดที่ 1.50 บาท ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 90.79%
ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยแบ่งการประกอบธุรกิจออกเป็น 5 ธุรกิจ ประกอบด้วย1. MONO29 ธุรกิจทีวีดิจิทัล 2. MONOMAX ธุรกิจวิดีโอออนดีมานด์ ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ และธุรกิจผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ ภายใต้ชื่อ MONO Streaming 3. MONOCyber ธุรกิจสื่อออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ MThai และให้บริการวางแผนและสร้างผลงานสื่อสารแบบองค์รวม (Holistic Communications) ให้กับแบรนด์เจ้าของสินค้า4. Master Content Provider ดำเนินการจัดหาคอนเทนต์และการตลาดเพื่อธุรกิจอินเตอร์แอ็กทีฟทีวี5. 29Shopping ธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง
การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงของราคาหุ้น MONO สร้างความมั่งคั่งให้กับ “พิชญ์ โพธารามิก” ซึ่งถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง จำนวน 2,004 ล้านหุ้น จากราคาต่ำสุดที่ 0.50 บาท/หุ้น มาปิดที่ 1.45 บาท/หุ้น หรือเพิ่มขึ้น 0.95 บาท/หุ้น นั่นหมายความว่า ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นกว่า 1,903.8 พันล้านบาท (เทียบราคาปิดวันที่ 8 ส.ค.67)
ขณะที่ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2564-2566) และในไตรมาส 1/67 มีกำไรสุทธิ 45.22 ล้านบาท 69.33 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 255.14 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 105.69 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/67 คงต้องตามต่อในสัปดาห์หน้าว่า ภาพการขาดทุนของ MONO จะเป็นอย่างไร การทะยานตัวขึ้นของราคาหุ้น MONO น่าจะมีอะไรใน “กอไผ่” รอตลาดเฉลยในไม่ช้าว่าจะมี “บิ๊กเซอร์ไพรส์” เป็นแรงขับเคลื่อนให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของ MONO เข้าสู่ภาพของการ “เทิร์นอะราวด์” ได้หรือไม่
ภาพรวมผลตอบแทนการลงทุนตลาดหุ้นไทยในเดือนสิงหาคม ยังคงเผชิญปัจจัยลบรอบด้าน จากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มถดถอย กดดันบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลก ปัญหาความความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน สงครามในตะวันออกกลางที่กำลังลุกลามบานปลาย
ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศหลังยุบพรรคก้าวไกล ยังเหลือคดีนายกฯเศรษฐา ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในวันที่ 14 สิงหาคม ที่จะถึงนี้เห็นได้ว่าปัจจัยลบดังกล่าวกดดันบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทย นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิกว่า 1.2 แสนล้านบาท
ผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET) ตั้งแต่ต้นปี-วันที่ 8 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงกว่า 8.85% ดัชนีหลุด 1,300 จุด ลงมาอยู่ที่ระดับ 1,296.25 จุด
ภาพใหญ่ของตลาดหุ้นที่ปรับตัวพบลง แต่ยังมีหุ้นบริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) (MONO) ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ช่อง 29 ราคาพุ่งทะยานสูงกว่าดัชนีตลาด
โดย 1 เดือนย้อนหลัง ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 52.63% ปิดตลาดวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ที่ระดับ 1.45 บาท ขณะที่ราคาหุ้นย้อนหลัง 3 เดือน ต่ำสุดที่ 0.50 บาท และสูงสุดที่ 1.50 บาท ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 90.79%
ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยแบ่งการประกอบธุรกิจออกเป็น 5 ธุรกิจ ประกอบด้วย1. MONO29 ธุรกิจทีวีดิจิทัล 2. MONOMAX ธุรกิจวิดีโอออนดีมานด์ ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ และธุรกิจผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ ภายใต้ชื่อ MONO Streaming 3. MONOCyber ธุรกิจสื่อออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ MThai และให้บริการวางแผนและสร้างผลงานสื่อสารแบบองค์รวม (Holistic Communications) ให้กับแบรนด์เจ้าของสินค้า4. Master Content Provider ดำเนินการจัดหาคอนเทนต์และการตลาดเพื่อธุรกิจอินเตอร์แอ็กทีฟทีวี5. 29Shopping ธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง
สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกของ MONO 10 อันดับแรกประกอบด้วย
1. นาย พิชญ์ โพธารามิก จำนวน 2,004,000,000 หุ้น คิดเป็น 57.73%
2. นาย นิพนธ์ ลีละศิธร จำนวน 55,250,000 หุ้น คิดเป็น 1.59 %
3. นาย โสรัชย์ อัศวะประภา จำนวน 43,450,000 หุ้น คิดเป็น 1.25%
4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 33,821,818 หุ้น คิดเป็น 0.97%
5. นาย ปราโมทย์ พสวงศ์ จำนวน 25,750,000 หุ้น คิดเป็น 0.74%
6. น.ส. กุลณฐา แสงธนนิรมิต จำนวน 20,500,000 หุ้น คิดเป็น 0.59%
7. นาย ประสิทธิ์ รักไทยแสนทวี จำนวน 20,478,100 หุ้น คิดเป็น 0.59%
8. นาย สันติ โกวิทจินดาชัย จำนวน 16,744,700 หุ้น คิดเป็น 0.48%
9. นาย นุรักษ์ มหัทธนะอานนท์ จำนวน 15,000,000 หุ้น คิดเป็น 0.43%
10. นาย อภิเชษฐ ไพบูลย์พันธ์ จำนวน 14,297,400 หุ้น คิดเป็น 0.41%
การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงของราคาหุ้น MONO สร้างความมั่งคั่งให้กับ “พิชญ์ โพธารามิก” ซึ่งถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง จำนวน 2,004 ล้านหุ้น จากราคาต่ำสุดที่ 0.50 บาท/หุ้น มาปิดที่ 1.45 บาท/หุ้น หรือเพิ่มขึ้น 0.95 บาท/หุ้น นั่นหมายความว่า ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นกว่า 1,903.8 พันล้านบาท (เทียบราคาปิดวันที่ 8 ส.ค.67)
ขณะที่ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2564-2566) และในไตรมาส 1/67 มีกำไรสุทธิ 45.22 ล้านบาท 69.33 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 255.14 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 105.69 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/67 คงต้องตามต่อในสัปดาห์หน้าว่า ภาพการขาดทุนของ MONO จะเป็นอย่างไร การทะยานตัวขึ้นของราคาหุ้น MONO น่าจะมีอะไรใน “กอไผ่” รอตลาดเฉลยในไม่ช้าว่าจะมี “บิ๊กเซอร์ไพรส์” เป็นแรงขับเคลื่อนให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของ MONO เข้าสู่ภาพของการ “เทิร์นอะราวด์” ได้หรือไม่