ระบบภูมิคุ้มกันในผู้ใหญ่หรือสูงอายุ จะไม่เหมือนหน่มๆสาวๆ ทำให้เกิดการติด ที่ภูมิคุ้มกันจะต่ำลงตามสภาพร่างกายที่ถดถอย จนทำให้ร่างกายเกิดการติดเชื้อและป่วยได้ง่าย บางรายอาจโชคร้ายเกิดการติดเชื้อโรคต่างๆ อาจมีอาการทรุดหนักหรือมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา จนทำให้ความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้นและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีไว้จึงสำคัญและจำเป็น สิ่งที่ตอบโจทย์ที่สุดคือ “วัคซีน”
- วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่พบได้ในทุกช่วง แต่หากเป็นผู้สูงอายุจะมีอัตราเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สูง รวมทั้งอัตราการเสียชีวิตก็สูงตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 19-64 ปี ที่เป็นโรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง และผู้ป่วยทุกวัยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างน้อยปีละครั้งจากโรคเรื้อรัง เช่นโรคเบาหวาน โรคไต โรคเลือด รวมถึงผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน กลุ่มคนเหล่านี้ก็ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เช่นกัน
- วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ
เหมาะกับผู้ป่วยที่ตัดม้าม ผู้ป่วยตับวาย หรือไตวาย ผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน และผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป นอกจากนี้อาจพิจารณาตามความเหมาะสมโดยเฉพาะในกลุ่มที่มีโรคประจำตัว อายุระหว่าง 19-64 ปีที่มีโรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง โรคตับแข็ง โรคไตวายเรื้อรัง ผู้เป็นโรคเบาหวาน รวมถึงผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ และผู้เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง
- วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน
โดยเฉพาะวัคซีนป้องกันบาดทะยัก ควรฉีดกระตุ้นภูมิทุกๆ 10 ปี ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นบาดทะยักส่วนใหญ่มักไม่มีประวัติรับวัคซีนป้องกันโรคมาก่อน
- วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด
แนะนำในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เพื่อลดอุบัติการณ์การเกิดโรคงูสวัด และช่วยลดความรุนแรงของอาการงูสวัดได้ ทั้งนี้คนที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคงูสวัดได้ และยิ่งอายุมากขึ้นก็มีโอกาสเป็นได้มาก เนื่องจากภูมิต้านทานของร่างกายจะลดลง โดยอุบัติการณ์การเกิดงูสวัดจะพบประมาณร้อยละ 30 ในประชากรทั่วไป และจะเพิ่มถึงร้อยละ 50 ในผู้ที่มีอายุ 85 ปีขึ้นไป
- วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส
เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคและมีโอกาสสัมผัสเชื้อ เช่น ครู หรือผู้ที่เลี้ยงเด็กหรือคลุกคลีกับเด็กเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่ยังไม่ต้องการตั้งครรภ์ ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ไม่ทราบหรือไม่มีประวัติเคยเป็นมาก่อน ควรตรวจหาภูมิคุ้มกันอีสุกอีใสก่อนได้รับวัคซีน
- วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี
ตับอักเสบบี เป็นโรคร้ายที่ส่งผลกระทบต่อตับซึ่งเกิดจากไวรัสตับอักเสบบี วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบีสามารถป้องกันโรคตับอักเสบบีและอันตรายต่างๆ ที่ตามมาหลังจากการติดเชื้อตับอักเสบบีได้ รวมถึงมะเร็งตับและโรคตับแข็ง
นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ป่วยโรคไตที่ได้รับการฟอกไต รวมถึงผู้ป่วยที่ได้รับเลือดบ่อยๆ ผู้ที่มีโรคหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง โรคไตวายเรื้อรัง ผู้เป็นโรคเบาหวาน รวมถึงผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
ทั้งนี้การฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ นั้น มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการฉีดวัคซีนในช่วงวัยเด็ก เพราะระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ ในร่างกายที่อ่อนแอลงตามวัย ทำให้ง่ายต่อการติดเชื้อและมีโอกาสป่วยสูง โดยวัคซีนจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ร่างกาย เป็นการดูแลเชิงป้องกันและยังสามารถช่วยลดระดับความรุนแรงของบางโรคได้อีกด้วย
ที่มา : https://www.pptvhd36.com/health/care/5706