Wealth Sharing

ทำความรู้จัก “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” การันตีผลตอบแทน-คุ้มครองเงินต้น


14 สิงหาคม 2567
ตามที่นักลงทุนรายย่อยหลายๆคนได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ “กองทุนรวมวายุภักษ์” ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่กระทรวงการคลังเตรียมนำกลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อที่จะดึงเม็ดเงินจากนักลงทุนเข้ามาพยุงตลาดทุน พร้อมกับสร้างบรรยากาศและความเชื่อมั่นของนักลงทุน 

WS (เว็บ)_ทำความรู้จัก กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ.jpg
ดังนั้น ในวันนี้ทางเราจะพามาดูรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุนดังกล่าวที่ได้เปิดเผยออกมาบางส่วน พร้อมกับไทม์ไลน์หรือกรอบระยะเวลาต่างๆ มานำเสนอให้แก่ผู้อ่านและนักลงทุนที่กำลังสนใจการลงทุนในกองทุนรวมวายุภักษ์มาให้ได้ชมกันในครั้งนี้
โดยเสนอรอบนี้จะเป็น “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” มูลค่าระดมทุนรวมไม่เกิน 1 - 1.5 แสนล้านบาท จะเปิดให้นักลงทุนทั่วไปเข้าซื้อได้ในหน่วยลงทุนประเภท ก. ซึ่งรายละเอียดและเงื่อนไขเกี่ยวกับวันจองซื้อ ช่องทางการจำหน่าย จำนวนเงินในการซื้อขั้นต่ำ และอื่นๆ จะเริ่มเปิดเผยในวันที่ 16 สิงหาคม เป็นต้นไป แต่เบื้องต้นมีโอกาสที่จะเริ่มขายและนำเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ช่วงเดือนกันยายนนี้
สำหรับรายละเอียดของกองทุนจะยังคงคล้ายกลไกเดิม ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ มีโอกาสเติบโตที่ดีในระยะยาว รวมไปถึงบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยจะอยู่ภายใต้กลยุทธ์ทั้งแบบเชิงรุก (Active Investment) และแบบเชิงรับ (Passive Investment)
ด้านของความน่าสนใจอย่างการจ่ายปันผล ก็ยังคงไว้เช่นเดิมโดยจะได้รับเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ซึ่งในแต่ละปีจะมีการการันตีอัตราผลตอบแทน ไม่น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและไม่เกินกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นสูง โดยอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและขั้นสูงดังกล่าวจะเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี (Water Fall)
นอกจากกองทุนยังมีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. ก่อน (มีบุริมสิทธิ) โดยในกรณีที่หากกองเกิดผลขาดทุนกระทรวงคลังที่เป็นถือหน่วยลงทุนประเภท ข. จะเป็นผู้แบกรับผลขาดทุนดังกล่าวแทนผู้ถือหน่วยลงทุนประเภทก.หรือก็คือนักลงทุนทั่วไป
สุดท้ายเกี่ยวกับผู้ดูแลเงินลงทุนของนักลงทุนและบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนของ “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” ยังคงได้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการกองทุน
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกองทุนดังกล่าวมาบางส่วน ในแง่ผลกระทบต่อตลาดทุนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ก็ได้ให้มุมมองไว้ว่า หากอิงกรณีศึกษาที่เคยประเมินผลบวกเม็ดเงินใหม่ (อิงกรณี LTF) ทุกๆ1 หมื่นล้านบาทในช่วงปี 2012-13 ที่วงจรเศรษฐกิจใกล้เคียงปัจจุบันจะหนุนดัชนีได้ 20 จุด  
ดังนั้น จึงมองเป็นบวกภาพต่อ SET ที่จะมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาหนุน และบวกต่อหุ้นที่มีน้ำหนักในกองทุนวายุภักษ์ 1 สูง ประกอบไปด้วย PTT, SCB, TTB, BCP,  KTB, AOT, ADVANC, SCC, BDMS และ KBANK ทั้งนี้ หากประกอบภาพพื้นฐานระยะสั้น-กลาง หุ้นที่น่าสนใจ คือ PTT, SCB, BCP, KTB, AOT และ ADVANC
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า จะช่วยหนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยกลับมา Outperform ดัชนี MSCI Asia ex. Japan ได้ในช่วงไตรมาส 4/67 หลังจากที่ Underperform มากถึง -13% นับจากต้นปีมาถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ คาดว่าโครงสร้างของกองทุนที่คุ้มครองผู้ลงทุนในประเทศ จะทำให้รัฐบาลสามารถระดมเงินทุนตามเป้าได้ไม่ยาก ขณะที่การเน้นลงทุนในหุ้นเติบโต ปันผลสม่ำเสมอ และให้ความสำคัญกับปัจจัยด้าน ESG จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพให้กับตลาดหุ้นไทยในระยะยาว หุ้นขนาดใหญ่ที่ให้ปันผลดีและได้ SET ESG Ratings สูง มีโอกาสถูกเก็งกำไรล่วงหน้า เช่น ADVANC, CPALL, KTB, PTT, SCB, SCC เป็นต้น

WS (เพจ)_ทำความรู้จัก กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่.jpg