กองทรัสต์ “IMPACT” ประกาศงบ Q1 ปี 67/68 กวาดรายได้ 644.8 ลบ. พุ่งแรง 50.8%
IMPACT GROWTH REIT ผู้นำศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ประกาศผลงาน Q1 ประจำปี 67/68 (สิ้นสุด 30 มิ.ย. 67) มีการใช้พื้นที่รองรับงานระดับนานาชาติ หนุนกองทรัสต์ฯ มีรายได้รวม 644.8 ล้านบาท พุ่งแรง 50.8% กวาดกำไรสุทธิ 379.0 ล้านบาท เติบโต 76.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รับเศรษฐกิจฟื้นตัว การจัดงานประชุมและแสดงสินค้าคึกคักกว่า 136 งาน หนุน Occupancy Rate อยู่ในระดับ 48.8% และมีคิวจองต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงปลายปี ด้านบอร์ดมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.22 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลทำจุดสูงสุดในไตรมาส 1 กำหนดจ่ายในวันที่ 13 ก.ย. ศกนี้
นางสาววันเพ็ญ มุ่งเพียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท (IMPACT GROWTH REIT) ผู้นำด้านการให้บริการสถานที่จัดประชุม นิทรรศการ และกิจกรรมต่างๆ แบบครบวงจร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ประจำปี 2567/2568 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2567) กองทรัสต์ฯ มีรายได้รวม 644.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 215.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 50.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 379.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163.8 หรือเพิ่มขึ้น 76.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ยรวม 48.8% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า และงวดเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ยรวม 85.8 บาทต่อตารางเมตร
เพื่อตอบแทนผู้ถือหน่วยที่เชื่อมั่น และสอดรับกับภาพรวมผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคต ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับไตรมาส 1 ประจำปี 2567/2568 ที่ 0.22 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูงที่สุดของไตรมาส 1 ของกองทรัสต์ฯ โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิรับเงินปันผลเป็นวันที่ 29 สิงหาคม 2567 และจะจ่ายในวันที่ 13 กันยายน 2567
ทั้งนี้ ปัจจุบัน IMPACT มีทรัพย์สินที่ลงทุนทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การจัดแสดงอิมแพ็ค อารีน่า อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ (ฮอลล์ 1-3) ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม (ฮอลล์ 4) และศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี (ฮอลล์ 5-12) ซึ่งทรัพย์สินทั้ง 4 แห่ง ตั้งอยู่ในโครงการอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีพื้นที่รวม 479,761 ตร.ม. และพื้นที่จัดแสดงงานสุทธิ 122,165 ตร.ม. ด้วยจุดเด่น เป็นศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ มีฐานลูกค้าหลากหลาย ทั้ง รัฐบาล เอกชน และต่างประเทศ ทำให้มีการกระจายความเสี่ยงได้ดี และมีอัตราการใช้พื้นที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาส 1 ปีนี้ (เมษายน - มิถุนายน) มีการจัดงานรวมจำนวนทั้งสิ้น 136 งาน ได้แก่ งาน Bangkok International Motor Show, Herbalife APAC Extravaganza, Money Expo, ThaiFEX-Anuga Asia, Thailand Baby and Kids Best Buy, Architect, OTOP Midyear, ONE Championship, และคอนเสิร์ตอีกหลากหลายศิลปินทั้งในและต่างประเทศ สอดรับสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก เป็นปัจจัยสนับสนุนอุตสาหกรรม MICE มีการจัดงานแสดงสินค้า งานสัมมนา รวมทั้ง การจัดงานอีเวนต์เพิ่มขึ้น เป็นโอกาสของอุตสาหกรรมศูนย์ประชุมให้กลับมาเติบโต โดยเฉพาะ IMPACT เป็นศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมชั้นนำของไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และมีงานแสดงสินค้าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งยังไม่นับรวมโอกาสใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการ Sky Entrance ปัจจุบันดำเนินงานก่อสร้างไปแล้วถึง 28.48% (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2567) คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นทางเดินในร่มเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า MT-01 (สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี) และอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินหลักที่ กองทรัสต์ IMPACT เข้าลงทุน สามารถต่อยอดธุรกิจ และอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าได้ รวมทั้ง บริษัทฯ อยู่ระหว่างมองหาโอกาสการเติบโตให้กองทรัสต์ฯ แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในอนาคต