เรื่องเด่นวันนี้
SUPER โชว์ผลงานครึ่งปีแรกรายได้แตะ 5,321.86 ลบ. บุ๊กปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่ม – EBITDA Margin พุ่ง 83 %
15 สิงหาคม 2567
บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดผลงานครึ่งแรกปี 67 กวาดรายได้รวม 5,321.86 ล้านบาท จากปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่มขณะที่ EBITDA Margin โต 83% สะท้อนศักยภาพฐานะการเงินมั่นคง ฟากซีอีโอ “จอมทรัพย์ โลจายะ” ระบุ เดินหน้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ พร้อมพันธมิตรช่วยสนับสนุนเงินทุน และรองรับการขยายงานร่วมกันในอนาคต สร้างผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นทุกปี เล็งออกหุ้นกู้วงเงิน 600 – 800 ล้านบาทในเดือนตุลาคมนี้
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,321.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 5,207.58 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะ และได้รับประโยชน์จากค่า FiTv ที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วน EBITDA Margin งวด 6 เดือน ปี 2567 จำนวน 4,274.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันปีก่อน หรือคิดเป็น EBITDA margin 83% สะท้อนความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทฯ
“ที่ผ่านมาบริษัทฯ เดินหน้าขยายการลงทุนพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงการจับมือพันธมิตรอย่าง AC ENERGY VIETNAM INVESTMENTS PTE. LTD. (ACEV) กองทุนพลังงานในประเทศอังกฤษ บริษัทในเครือของกองทุน Actis Energy Fund 5, บริษัท เลวันตา รีนิวเอเบิลส์ (ประเทศไทย) (LEVANTA), SUS Thailand Holding Limited (SUS) ภายใต้กลุ่ม Shanghai SUS Environment Co., Ltd สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือว่าช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน และองค์ความรู้ด้านพลังงานทดแทน โอกาสในการขยายธุรกิจร่วมกันในอนาคต” นายจอมทรัพย์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาลจากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว ที่ความเข้มข้นของแสงอาทิตย์ และความเร็วลมมีปริมาณสูงขึ้น สนับสนุนปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าสูงขึ้น อีกทั้งจะมีการจะรับรู้กำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุน SUS และ SUNFLOWER และจะทยอยรับรู้รายได้เชิงพาณิชย์ (COD) วินด์ฟาร์มในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ ในช่วงปลายปี โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนเข้าประมูลขายไฟฟ้าในส่วนของพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 3,600 – 5,000 เมกะวัตต์ ของภาครัฐ เพื่อสนับสนุนผลประกอบการในอนาคต รวมทั้งบริษัทฯมีแผนจะเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 600 – 800 ล้านบาท ในเดือนตุลาคมนี้
อนึ่ง บริษัทฯ มีปริมาณเสนอขายไฟฟ้าตาม PPA อยู่ที่ 2,353.79 เมกะวัตต์ ซึ่ง COD ไปแล้ว 1,626.11 เมกะวัตต์ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเชิงพาณิชย์เป็น 2,200 เมกะวัตต์ ในปี 2570 ซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทฯมีรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดดและสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้ถือหุ้นได้ทุกปี
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,321.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 5,207.58 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะ และได้รับประโยชน์จากค่า FiTv ที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วน EBITDA Margin งวด 6 เดือน ปี 2567 จำนวน 4,274.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันปีก่อน หรือคิดเป็น EBITDA margin 83% สะท้อนความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทฯ
“ที่ผ่านมาบริษัทฯ เดินหน้าขยายการลงทุนพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงการจับมือพันธมิตรอย่าง AC ENERGY VIETNAM INVESTMENTS PTE. LTD. (ACEV) กองทุนพลังงานในประเทศอังกฤษ บริษัทในเครือของกองทุน Actis Energy Fund 5, บริษัท เลวันตา รีนิวเอเบิลส์ (ประเทศไทย) (LEVANTA), SUS Thailand Holding Limited (SUS) ภายใต้กลุ่ม Shanghai SUS Environment Co., Ltd สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือว่าช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน และองค์ความรู้ด้านพลังงานทดแทน โอกาสในการขยายธุรกิจร่วมกันในอนาคต” นายจอมทรัพย์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาลจากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว ที่ความเข้มข้นของแสงอาทิตย์ และความเร็วลมมีปริมาณสูงขึ้น สนับสนุนปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าสูงขึ้น อีกทั้งจะมีการจะรับรู้กำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุน SUS และ SUNFLOWER และจะทยอยรับรู้รายได้เชิงพาณิชย์ (COD) วินด์ฟาร์มในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ ในช่วงปลายปี โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนเข้าประมูลขายไฟฟ้าในส่วนของพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 3,600 – 5,000 เมกะวัตต์ ของภาครัฐ เพื่อสนับสนุนผลประกอบการในอนาคต รวมทั้งบริษัทฯมีแผนจะเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 600 – 800 ล้านบาท ในเดือนตุลาคมนี้
อนึ่ง บริษัทฯ มีปริมาณเสนอขายไฟฟ้าตาม PPA อยู่ที่ 2,353.79 เมกะวัตต์ ซึ่ง COD ไปแล้ว 1,626.11 เมกะวัตต์ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเชิงพาณิชย์เป็น 2,200 เมกะวัตต์ ในปี 2570 ซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทฯมีรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดดและสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้ถือหุ้นได้ทุกปี