สถานการณ์การใช้และราคา LPG ที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี สนับสนุนผลงาน บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ผู้บริหารมั่นใจปีนี้ผลงานเติบโตตามเป้า
กรมธุรกิจพลังงานระบุ ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบครึ่งปีแรกของปี 67 เฉลี่ยเดือน ม.ค.-มิ.ย. อยู่ที่ 156.68 ล้านลิตร/วัน ลดลง 0.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 18.35 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 3.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของภาคปิโตรเคมี 8.7% มาอยู่ที่ 8.38 ล้านกก./วัน ภาคขนส่งเพิ่มขึ้น 3.0% มาอยู่ที่ 2.32 ล้านกก./วัน โดยปริมาณการใช้ LPG มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากการดำเนินงานของภาคปิโตรเคมี ในขณะที่การใช้ในภาคอุตสาหกรรมลดลง 3.3% มาอยู่ที่ 1.96 ล้านกก./วัน และภาคครัวเรือนลดลง 0.3 %มาอยู่ที่ 5.70 ล้านกก./วัน
ขณะที่การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยมีปริมาณส่งออกอยู่ที่ 162,741 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 4.8% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 16,832 ล้านบาท/เดือน
ราคาและปริมาณการใช้ก๊าซ LPG ที่ปรับเพิ่มขึ้น สนับสนุนผลงานไตรมาส2/67 ของ บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) เติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง “นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 36.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.14 ล้านบาท คิดเป็น 38.18 % เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 26.55 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 4,549.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147.53 ล้านบาท คิดเป็น 3.35 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 4,401.48 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 4,489.39 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ เท่ากับ 59.61 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น มาจากยอดขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)ที่เพิ่มขึ้น การบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น โดยบริษัทมีปริมาณการขายรวมของก๊าซ LPG เพิ่มขึ้นจาก 193,983ตัน เป็น199,211ตัน นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาขายก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 611 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน
ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 9,396.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 495.25 ล้านบาท หรือ 5.56% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 8,901.39 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 69.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.37 ล้านบาท หรือ 5.10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 65.96 ล้านบาท
ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯในครึ่งปีแรก ยังคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากก๊าซLPGเป็นสินค้ามีความจำเป็นทั้งในภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรม ประกอบกับราคาก๊าซLPGที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผลการดำเนินงานทั้งในส่วนของรายได้และกำไรครึ่งปีแรกเติบโตอยู่ในทิศทางบวกได้ ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี2567ของกลุ่มบริษัทฯ จะสามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
“แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 เชื่อว่า ธุรกิจจะขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง จากภาพรวมความต้องการใช้ก๊าซLPG ทั้งในและต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น มั่นใจว่ายอดขายปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 820,000ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 790,000 ตัน และส่งออก จำนวน 30,000 ตัน ขณะที่ปัจจุบันส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ เวิล์ดแก๊ส อยู่ที่อันดับ 2 หรือคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด (market share) 20%” นางสาวชมกมลกล่าว
กรมธุรกิจพลังงานระบุ ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบครึ่งปีแรกของปี 67 เฉลี่ยเดือน ม.ค.-มิ.ย. อยู่ที่ 156.68 ล้านลิตร/วัน ลดลง 0.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 18.35 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 3.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของภาคปิโตรเคมี 8.7% มาอยู่ที่ 8.38 ล้านกก./วัน ภาคขนส่งเพิ่มขึ้น 3.0% มาอยู่ที่ 2.32 ล้านกก./วัน โดยปริมาณการใช้ LPG มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากการดำเนินงานของภาคปิโตรเคมี ในขณะที่การใช้ในภาคอุตสาหกรรมลดลง 3.3% มาอยู่ที่ 1.96 ล้านกก./วัน และภาคครัวเรือนลดลง 0.3 %มาอยู่ที่ 5.70 ล้านกก./วัน
ขณะที่การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยมีปริมาณส่งออกอยู่ที่ 162,741 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 4.8% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 16,832 ล้านบาท/เดือน
ราคาและปริมาณการใช้ก๊าซ LPG ที่ปรับเพิ่มขึ้น สนับสนุนผลงานไตรมาส2/67 ของ บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) เติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง “นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 36.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.14 ล้านบาท คิดเป็น 38.18 % เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 26.55 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 4,549.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147.53 ล้านบาท คิดเป็น 3.35 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 4,401.48 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 4,489.39 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ เท่ากับ 59.61 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น มาจากยอดขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)ที่เพิ่มขึ้น การบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น โดยบริษัทมีปริมาณการขายรวมของก๊าซ LPG เพิ่มขึ้นจาก 193,983ตัน เป็น199,211ตัน นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาขายก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 611 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน
ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 9,396.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 495.25 ล้านบาท หรือ 5.56% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 8,901.39 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 69.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.37 ล้านบาท หรือ 5.10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 65.96 ล้านบาท
ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯในครึ่งปีแรก ยังคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากก๊าซLPGเป็นสินค้ามีความจำเป็นทั้งในภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรม ประกอบกับราคาก๊าซLPGที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผลการดำเนินงานทั้งในส่วนของรายได้และกำไรครึ่งปีแรกเติบโตอยู่ในทิศทางบวกได้ ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี2567ของกลุ่มบริษัทฯ จะสามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
“แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 เชื่อว่า ธุรกิจจะขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง จากภาพรวมความต้องการใช้ก๊าซLPG ทั้งในและต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น มั่นใจว่ายอดขายปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 820,000ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 790,000 ตัน และส่งออก จำนวน 30,000 ตัน ขณะที่ปัจจุบันส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ เวิล์ดแก๊ส อยู่ที่อันดับ 2 หรือคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด (market share) 20%” นางสาวชมกมลกล่าว