หุ้นไทยบวก 20 จุด ดัชนีแตะ 1,323 จุด ไทม์ไลน์การเมืองชัด โบรกฯ ชี้ช่วยหนุนกลุ่มการเงิน-รับเหมา
ความเคลื่อนไหวของภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19 ส.ค.) โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,323 จุด เพิ่มขึ้นกว่า 20 จุด และมีมูลค่าการซื้อขายไปแล้วกว่า 52,500 ล้านบาท
โดยบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ในช่วงสุดสัปดาห์นายกฯ ได้รับโปรดเกล้าเป็นนายกฯคนที่ 31 แต่การปฏิบัติหน้าที่จะเริ่มขึ้นหลังถวายสัตย์ปฏิญาณ โดยขั้นตอนต่อไปคือการฟอร์มทีม ครม. เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ และแถลงนโยบายต่อสภาฯ คาดกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์
ทั้งนี้ประเมินปัจจัยดังกล่าวจะเอื้อต่อความต่อเนื่องในการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐฯ ซึ่งจะเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Domestic Play อาทิ การเงิน, รับเหมาก่อสร้าง, อสังหาฯ และ อาหารและเครื่องดื่ม
อย่างไรก็ตาม แนะนำชะลอการลงทุนในหุ้นที่เชื่อมโยงกับการเก็งกำไรต่อโครงการ ‘Digital Wallet’ เช่นค้าปลีก เพื่อรอความชัดเจนของนโยบายจากคณะรัฐมนตรีใหม่ในช่วง 2-3 สัปดาห์หน้า
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยดีดตัว หลังได้นายกฯคนใหม่เร็ว หนุนภาพนโยบายเศรษฐกิจมีความต่อเนื่อง โดยหลังจากโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกฯ ไปแล้วเมื่อวานนี้ ขั้นตอนถัดไปคือการแต่งตั้งครม.ชุดใหม่ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1 สัปดาห์และเชื่อว่าหน้าตาของครม.ใหม่จะไม่ต่างจากเดิมมากนัก หนุนการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้ต่อเนื่อง รวมถึงกองทุนวายุภักษ์ที่คาดว่าจะยังมีอยู่
ขณะที่จีดีพีไตรมาส 2/67 ขยายตัว 0.8% จากไตรมาสก่อนหน้า,และ 2.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อนใกล้เคียงตลาดคาด จากแรงหนุนการบริโภค-ท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ดี และการใช้จ่าย-การลงทุนภาครัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น ตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ มอง SET ปรับขึ้นต่อ เป้าหมายถัดไป 1,330 จุด เน้นกลุ่มหุ้นใหญ่กำไรดี
สำหรับกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่กำไรถูก Upgrade และมีแนวโน้มดีต่อในไตรมาส 3/67 โดยภาพรวมกำไรไตรมาส 2/67 ที่ประกาศออกมาแล้วอยู่ที่ 2.65 แสนล้านบาท ลดลง 1% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกัน หากไม่รวมกำไรกลุ่มพลังงาน-ปิโตร กำไรของ SET จะเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน, 12% จากช่วงเดียวกัน ซึ่งมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากกลุ่มอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวรวมไปถึงการบริโภค-ท่องเที่ยวยังเป็นปัจจัยหนุนหลักของเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ดี แม้ว่า Consensus ยังคงปรับกำไร SET ลงต่อ แต่หลักๆ เป็นการปรับลดกำไรลงในไม่กี่กลุ่ม เช่น ปิโตร ขณะที่กลุ่มที่ถูกปรับกำไรขึ้น ได้แก่ กลุ่มสื่อ อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ สื่อสาร รพ. ขนส่ง การเงินพลังงาน และ โรงไฟฟ้า มองปัจจัยการเมืองที่กำลังจะถูก “ปลดล็อก” ได้นายกฯ และจัดตั้ง ครม. ได้เร็ว จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อนโยบายเศรษฐกิจหลังจากนี้ รวมถึงกองทุนวายุภักษ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
ดังนั้น จึงแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่ถูก Upgrade กำไร ได้แก่ CBG, CK, COM7, CPN, DELTA, GULF, KTB, TTB, TRUE และ WHA