Talk of The Town

ยอดสินเชื่อธนาคารเดือน ก.ค. ลดลง เหตุแบงก์เข้มงวด ผวา! เศรษฐกิจฟื้นช้า แต่โบรกฯ เชื่อปีนี้ยอดปล่อยสินเชื่อโตแค่ 2%


22 สิงหาคม 2567
นักวิเคราะห์มองลบ หลังยอดสินเชื่อกลุ่มธนาคารเดือนก.ค. ลดลงต่อ ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และ เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า แต่เชื่อทั้งปี 67 ยังเป็นการเติบโต พร้อมชู KTB และ KBANK เป็นหุ้นเด่น

ยอดสินเชื่อธนาคารเดือนก.ค.ลดลง copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์รายงานสินเชื่อเดือน ก.ค. 2567 ลดลง 0.3% จากเดือนก่อน โดยภาพรวมสินเชื่อลดลงจากสินเชื่อภาคธุรกิจ SME และรายย่อย เพราะ  ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และ เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ทำให้การเบิกจ่ายสินเชื่อน้อยลง

สำหรับ ธนาคารที่รายงานสินเชื่อเพิ่มขึ้น จากเดือนก่อน คือ KTB เพิ่มขึ้น 1.6% จากสินเชื่อภาครัฐ และ SCB เพิ่มขึ้น 0.4% จากสินเชื่อธุรกิจ ขณะที่ธนาคารอื่นรายงานสินเชื่อหดตัว ดังนี้ 

TISCO ลดลง 0.1% จากสินเชื่อรายย่อย KBANK ลดลง 0.9% จากสินเชื่อธุรกิจ KKP ลดลง 0.9% จากสินเชื่อธุรกิจ SME และรายย่อย TTB ลดลง 1.4% จากสินเชื่อธุรกิจ และรายย่อย และ BBL ลดลง 1.8% จากคาดสินเชื่อภาคธุรกิจ 

อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับสิ้นปีก่อนสินเชื่อของกลุ่มธนาคาร ลดลง 0.6% นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน เด่นสุดนำโดย KTB เพิ่มขึ้น 1.2% ตามด้วย SCB เพิ่มขึ้น 0.9% ส่วนธนาคารที่รายงานสินเชื่อหดตัวคือ TISCO ลดลง 0.4%, KBANK ลดลง 1.2%, BBL ลดลง 1.5%, KKP ลดลง 2.8% และ TTB ลดลง 3.6% นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน
ขณะที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์รายงานเงินฝากเพิ่มขึ้น 1.0% จากเดือนก่อน หากเทียบกับสิ้นปีก่อนเงินฝากของกลุ่มธนาคาร ลดลง 0.9% นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน ด้านอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (L/D ratio) ของเดือน ก.ค. 67 อยู่ที่ 86.9% ลดลงจาก 88.0% ในเดือน มิ.ย. 67

โดยมีมุมมอง Slightly Negative ต่อการรายงานสินเชื่อลดลงเล็กน้อยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในเดือน ก.ค. 67 อย่างไรก็ตามยังคงคาดสินเชื่อรวมปี 67 เติบโต 2% จากปีก่อน ซึ่งให้น้ำหนักการเติบโตในช่วงไตรมาส 4/67 จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น คงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคารที่ BEARISH และคงเลือก KTB (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 22บาท) และ KBANK (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 155 บาท) เป็น Top pick

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเป็นลบต่อสินเชื่อในเดือน ก.ค.ที่หดตัวลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังคงประมาณการการเติบโต ของสินเชื่อรวมทั้งปี 67 ของกลุ่มไว้ที่ เติบโต 2% จากปีก่อน ด้าน NPL คาดว่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

แต่เชื่อว่าจะ ทยอยเพิ่มขึ้นไม่น่ากังวลมากนัก เพราะแต่ละธนาคารมีการตั้งสำรองฯ จำนวนมากมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมีการทยอยขายหนี้เสียออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาด NPL ในปี 67 จะอยู่ที่ 3.25% จาก 2.92% ในปีก่อน ดังนั้นยังคงน้ำหนักเป็น “เท่ากับตลาด” เลือก KTB, KBANK เป็น Top pick