จะเกิดอะไรขึ้น? เมื่อ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เปลี่ยนเป็น “เงินสด”

เกาะติดโครงการเรือธงของรัฐบาลเพื่อไทย อย่าง โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ล่าสุดมีข่าวลือหนาหูออกมาว่า จะมีการเปลี่ยนรูปแบบด้วยการแจกเป็นเงินสด



แต่นายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์บางช่วงถึงโครงการดังกล่าว เรื่องการเปลี่ยนเป็นการแจกเงินสด จะเป็นการตอบโจทย์ประชาชนมากกว่าหรือไม่ นายทักษิณ มองว่า ข้อดีของการแจกเงินสด คือเร็ว แต่ข้อเสียคือ กลัวจะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เต็มที่

ขณะที่มุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ประเด็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีกับฝ่ายเศรษฐกิจ กำลังพูดคุยกันถึงแนวทาง ซึ่งความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องมีแน่นอนและต้องทำอย่างเร็วช้าไม่ได้ โดยนโยบาย Digital Wallet ที่มีวัตถุประสงค์ 3 เรื่องหลัก 

คือ 1. การกระตุ้นเศรษฐกิจ ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องหลัก 2.การให้ประชาชนมีความรู้เทคโนโลยี 3.การใช้ Platform โครงการต่อยอดเศรษฐกิจอื่น รวมถึงการเชื่อมต่อระหว่างประชาชนกับรัฐบาล สถานการณ์ปัจจุบันวัตถุประสงค์การกระตุ้นเศรษฐกิจรอไม่ได้ 

นอกจากนี้ อิงความเห็นสำนักงบประมาณระบุว่า การเปลี่ยนดิจิทัลวอลเล็ต เป็นแจกเงินสด สามารถดำเนินการได้ แต่ยังต้องยึดวัตถุประสงค์เดิม 

ดังนั้นมองมีโอกาสอาจจะเห็นการปรับเปลี่ยน โดยขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงยังน่าจะต้องรอการตัดสินใจครม. ใหม่ ซึ่งประเมินจะช่วยให้มีโอกาสเห็นภาพเม็ดเงินลงกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วขึ้น บวกต่อกลุ่ม Domestic อาทิ ค้าปลีก เน้น CPALL, CPAXT, BJC เช่าซื้อ ธนาคาร เน้น KTB, KBANK สื่อสาร เน้น ADVANC, TRUE

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ประเด็นผอ.สำนักงบฯ เผยให้แจกเป็นเงินสดได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่จะจัดทำออกมาในรูปแบบนโยบายใด ซึ่งฝ่ายวิจัยมองในรูปแบบนี้มาตลอด โดยการแจกเงินสดจะส่งผลบวก 3 ทาง คือ 

1.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะได้งบฯเพิ่ม 2. มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รับเหมา ICT มากขึ้น 3.ใช้มาตรการภาครัฐปล่อยกู้ได้เยอะขึ้น

โดยมองว่า จะดีต่อหุ้นโรงไฟฟ้า ปั๊มน้ำมัน รับเหมา รับงานภาครัฐ ค้าปลีก KTB แต่จะลบต่อกลุ่ม non-bank เพราะธนาคารรัฐจะกินส่วนแบ่งสินเชื่อของกลุ่มที่ปล่อยกู้สินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก