จิปาถะ
กลุ่มเปราะบาง 14.98 ล้านคนเฮ! จ่อรับเงินสด โอนผ่าน ‘บัตรคนจน’ ให้ 1 หมื่นรอบเดียว
22 สิงหาคม 2567
กลุ่มเปราะบาง 14.98 ล้านคนเฮ จ่อรับเงินสด1หมื่น โอนจ่ายผ่าน ‘บัตรคนจน’ ใช้งบเป๋าดิจิทัล 1.65 แสนล้าน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า จะเดินหน้าให้บรรลุวัตถุประสงค์ แต่สถานการณ์ที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง จะปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่มี เพื่อให้ทุกคนสบายใจ จุดมุ่งหมายที่วางไว้ต้องพึ่งกำลังซื้อกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ผลจะเป็นอย่างไรต้องรอให้พรรคร่วมกับพรรครัฐบาล ซึ่งจะเป็นทีมเดียวกัน หรือทีมใหม่หรือเปล่า ต้องตกลงก่อนที่จะแถลงนโยบายความชัดเจนทั้งหมดจะมีหลังโปรดเกล้าฯและถวายสัตย์ฯ ต้องดำเนินการภายใน 15 วัน
“หลังแถลงนโยบายต่อสภาทั้งหมด นับหนึ่งรัฐบาลใหม่ก็เริ่มดำเนินการได้ อะไรที่พูดกับประชาชนไว้ เรารักษาสัญญา อะไรที่ทำได้ เราทำเต็มที่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ตัดสินใจอย่างไรไม่เคยทิ้ง เดินหน้าตามนี้ ในทางปฏิบัติที่วิพากษ์วิจารณ์มา จะรับข้อวิพากษ์วิจารณ์
ไปปรับ มาตรการอื่นเป็นหน้าที่ที่เราต้องคิดอยู่แล้ว จะไปดูรายละเอียด ต้องทำให้ประชาชนพอใจแน่นอน และให้เพราะวัตถุประสงค์ครบถ้วน ไม่ลดขนาดโครงการ พูดไว้อย่างไรก็ทำอย่างนั้น ให้ฟังเรา”นายภูมิธรรมกล่าว
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า สำหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ยังเดินหน้าต่อ สอดคล้องกับที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่ามีทางไป และมีทางออกที่ดี แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ขอให้ขั้นตอนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะแถลงครั้งเดียว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า การเดินหน้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะปรับเงื่อนไข เบื้องต้นจะแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางที่ลงทะเบียนไว้ก่อนเป็นอันดับแรกในวงเงิน 1.22 แสนล้านบาท
ตามที่สภาเห็นชอบอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม 1.22 แสนล้านบาท โดยเป็นการแจกเงินสดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ในครั้งเดียว จำนวน 10,000 บาท โดยไม่กังวลว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นบัตรที่มาจากนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี
“วิธีการดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนจากการใช้เงินผ่านระบบดิจิทัล เป็นการเติมเงินสดลงไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐก่อน ส่วนประชาชนกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มเปราะบาง ยังไม่ได้พิจารณา”แหล่งข่าวคนเดิมกล่าว
ทั้งนี้สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)ที่ลงทะเบียนไว้มีจำนวน 14.98 ล้านคน โดยแหล่งเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเบื้องต้นรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาจากงบประมาณปี 2567 เป็นงบประมาณกลางปี 122,000 ล้านบาท โดยรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้วและงบกลาง 43,000 ล้านบาทต้องใช้ภายในกันยายน 2567 นอกจากนี้ยังมีงบประมาณปี 2568 เป็นงบกลาง 152,000 ล้านบาทซึ่งรัฐบาลเดิมเสนอไว้เพื่อจัดทำดิจิทัลวอลเล็ต
ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_4748503
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า จะเดินหน้าให้บรรลุวัตถุประสงค์ แต่สถานการณ์ที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง จะปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่มี เพื่อให้ทุกคนสบายใจ จุดมุ่งหมายที่วางไว้ต้องพึ่งกำลังซื้อกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ผลจะเป็นอย่างไรต้องรอให้พรรคร่วมกับพรรครัฐบาล ซึ่งจะเป็นทีมเดียวกัน หรือทีมใหม่หรือเปล่า ต้องตกลงก่อนที่จะแถลงนโยบายความชัดเจนทั้งหมดจะมีหลังโปรดเกล้าฯและถวายสัตย์ฯ ต้องดำเนินการภายใน 15 วัน
“หลังแถลงนโยบายต่อสภาทั้งหมด นับหนึ่งรัฐบาลใหม่ก็เริ่มดำเนินการได้ อะไรที่พูดกับประชาชนไว้ เรารักษาสัญญา อะไรที่ทำได้ เราทำเต็มที่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ตัดสินใจอย่างไรไม่เคยทิ้ง เดินหน้าตามนี้ ในทางปฏิบัติที่วิพากษ์วิจารณ์มา จะรับข้อวิพากษ์วิจารณ์
ไปปรับ มาตรการอื่นเป็นหน้าที่ที่เราต้องคิดอยู่แล้ว จะไปดูรายละเอียด ต้องทำให้ประชาชนพอใจแน่นอน และให้เพราะวัตถุประสงค์ครบถ้วน ไม่ลดขนาดโครงการ พูดไว้อย่างไรก็ทำอย่างนั้น ให้ฟังเรา”นายภูมิธรรมกล่าว
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า สำหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ยังเดินหน้าต่อ สอดคล้องกับที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่ามีทางไป และมีทางออกที่ดี แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ขอให้ขั้นตอนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะแถลงครั้งเดียว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า การเดินหน้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะปรับเงื่อนไข เบื้องต้นจะแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางที่ลงทะเบียนไว้ก่อนเป็นอันดับแรกในวงเงิน 1.22 แสนล้านบาท
ตามที่สภาเห็นชอบอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม 1.22 แสนล้านบาท โดยเป็นการแจกเงินสดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ในครั้งเดียว จำนวน 10,000 บาท โดยไม่กังวลว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นบัตรที่มาจากนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี
“วิธีการดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนจากการใช้เงินผ่านระบบดิจิทัล เป็นการเติมเงินสดลงไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐก่อน ส่วนประชาชนกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มเปราะบาง ยังไม่ได้พิจารณา”แหล่งข่าวคนเดิมกล่าว
ทั้งนี้สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)ที่ลงทะเบียนไว้มีจำนวน 14.98 ล้านคน โดยแหล่งเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเบื้องต้นรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาจากงบประมาณปี 2567 เป็นงบประมาณกลางปี 122,000 ล้านบาท โดยรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้วและงบกลาง 43,000 ล้านบาทต้องใช้ภายในกันยายน 2567 นอกจากนี้ยังมีงบประมาณปี 2568 เป็นงบกลาง 152,000 ล้านบาทซึ่งรัฐบาลเดิมเสนอไว้เพื่อจัดทำดิจิทัลวอลเล็ต
ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_4748503