จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SSP ขยายลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในปท.&ตปท. ทุ่มงบกว่า 3.7 พันล้านบาท ลุยโครงการในไต้หวัน


22 สิงหาคม 2567
บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตอกย้ำเป็น Renewable  ล่าสุดทุ่มงบกว่า 3.7 พันล้านบาท ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในไต้หวัน 

รายงานพิเศษ SSP copy.jpg

บล.ดาโอ วิเคราะห์ บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น  (SSP) โดยระบุว่า  กำไรไตรมาส 4/67 ลดลงจากปีก่อน และลดลงจากไตรมาสก่อน ถูกกดดันจากหลายปัจจัย  บริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 ที่ 123 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตามหากตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติอยู่ที่ 128 ล้านบาท ลดลง 43% จากปีก่อน ลดลง 50% จากตามาสก่อน (ไม่มีconsensus) โดยลดลงจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทยมีค่าแสงที่ลดลง โดยเฉพาะโครงการ SPN มีความพร้อมจ่ายต่ำลง ทำให้ปริมาณขายไฟฟ้าโดยรวมจากพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย ลดลง 19% จากปีก่อน และ ลดลง 3% จากไตรมาสก่อน และค่า Ft ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้เป็นอีกปัจจัยกระทบ (2Q24E ที่ 0.39 บาท/หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ จากระดับ 1.54 บาท/หน่วย (ม.ค. - เม.ย. 66) และ 0.91 บาท/หน่วย (พ.ค. - ส.ค. 66)) 

นอกจากนี้โรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามยังผลิตไฟฟ้าได้ลดลง 30% จากปีก่อน ลดลง 69% จากไตรมาสก่อน จากความผันผวนของกระแสลมและปัจจัยฤดูกาล รวมถึงการปิดซ่อมบำรุงโครงการ UTP ซึ่งเลื่อนเวลาขึ้นมาในเดือน มิ.ย. เป็นอีกปัจจัยกดดันผลประกอบการ

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงประมาณการกำไรปกติปี 67 แนวโน้มครึ่งหลังปี 67 เติบโตได้กว่าครึ่งแรกของปี 67 เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 67 ที่ 870 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน โดยกำไรปกติในครึ่งแรกปี 67 คิดเป็น 44% ของประมาณการดังกล่าว 

ทั้งนี้แนวโน้มครึ่งหลังของปี 67 คาดเติบโตได้กว่าในครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1) การเข้า high season โรงไฟฟ้าพลังงานลม 2) รับรู้รายได้โครงการ Windchai เต็มครึ่งปีหลัง 3) ไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโครงการ UTP หลังเลื่อนขึ้นมาทำช่วงครึ่งปีแรกแทน โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 7.50 บาท อิง DCF (WACC 5.7%, TG 0%) ทั้งนี้ Key catalyst คือการได้โครงการใหม่เพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ 

ขณะที่ นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP ระบุว่า ความคืบหน้าโครงการในครึ่งปีแรกเป็นไปตามแผน การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินงานในไตรมาส 4/68 

และได้เข้าลงทุนในโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เมืองไถหนาน ประเทศไต้หวันขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง17 เมกะวัตต์  รวมถึงจัดตั้งบริษัทร่วมทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะ จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับ บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท ลัคกี้ คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ด้วยปริมาณไฟฟ้าเสนอขาย PEA 8.9 เมกะวัตต์

ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไต้หวันขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 38 เมกะวัตต์  ซึ่งโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ที่เมืองผิงตง ประเทศไต้หวัน ด้วยมูลค่าการลงทุนจำนวนไม่เกิน 3,778 ล้านบาท

บริษัทฯ อยากให้นักลงทุนมอง SSP ว่าลงทุนโรงไฟฟ้าทุกประเภท เพราะเราตั้งใจเป็นRenewableหรือ พลังงานที่ไม่มีวันหมด โดยเราจะพิจารณาเลือกลงทุนในโครงการที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า สามารถสร้างความสม่ำเสมอของกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคง 

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีแผนขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และมีโครงการอื่นๆ ในมือที่รอพัฒนา เช่น โครงการวินฟาร์มในประเทศฟิลิปปินส์ กําลังการผลิตติดตั้ง 150 เมกะวัตต์ โครงการโซล่าร์ฟาร์มไต้หวันเฟส2 รวมไปถึงการลงทุนตามแผนPDPของประเทศไทย ที่คาดว่าจะได้ความชัดเจนภายในสิ้นปี2567 นี้
SSP