กลุ่มบริษัทเอไอเอผลงาน 6 เดือนแรกของปี 67 มูลค่าธุรกิจใหม่ทำสถิติเพิ่มขึ้น 25%
มูลค่าธุรกิจใหม่ทำสถิติ เพิ่มขึ้น 25% กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี และมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของเงินกองทุนส่วนเกิน เพิ่มขึ้น10% ส่วนผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเงินปันผลระหว่างกาลต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 5.2%
นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า ผลงานในช่วงครึ่งแรกปี 67 บริษัทมีผลงานยอดเยี่ยม โดยประสบความสำเร็จในการสร้างผลกำไรทางธุรกิจใหม่ การเติบโตของกำไรอย่างมีนัยสำคัญ การสร้างเงินกองทุนส่วนเกินที่แข็งแกร่ง และคืนผลตอบแทนจำนวนมากให้แก่ถือหุ้น
โดยมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้น 25% ถือเป็นสถิติใหม่ คิดเป็นมูลค่า 2,455 ล้านเหรียญสหรัฐ ยอดขายเพิ่มขึ้น 17% คิดเป็น 4,546 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) กำไรของธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 3.3 จุด เป็น 53.9%
ส่วนกำไรจากการดำเนินงานบนมูลค่าพื้นฐานของกิจการ (EV operating profit) อยู่ที่ 5,350 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 29% ต่อหุ้น อัตราผลตอบแทนจากการดำเนินงานบนมูลค่าธุรกิจประกันภัย (ROEV) อยู่ที่ 16.5% เพิ่มขึ้นจาก 12.9% ในช่วงตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประกาศกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) ต่อหุ้น และเป้าหมายอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) จาก 9% ไปเป็น 11% ตั้งแต่ปี 2566 ถึง 2569
ส่วนรายงานทางการเงิน (IFRS) พบว่า กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) อยู่ที่ 3,386 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10% ต่อหุ้น อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 15.3% เพิ่มขึ้นมาจาก 13.5% ในปี 2566
กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) ต่อหุ้นตามเป้าหมายอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) จาก 9% เป็น 11% ตั้งแต่ปี 2566 ถึงปี 2569
“ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2567 เราได้ให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น จำนวน 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐผ่านการจ่ายเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน คณะกรรมการได้ประกาศเพิ่มโครงการซื้อหุ้นคืนของเราอีก 2.0 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือนเมษายน ส่งผลให้ยอดรวมอยู่ที่ 12.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในวันนี้คณะกรรมการได้ประกาศเพิ่มเงินปันผลระหว่างกาลอีก 5.2% เป็น 44.50 เซนต์ฮ่องกงต่อหุ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งอย่างมากของเอไอเอ ตลอดจนความเชื่อมั่นในการดำเนินงานและทางการเงินในอนาคตของเรา”