เป็นที่ทราบกันดีแล้วสำหรับประเด็น คณะกรรมการบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการครั้งใหญ่ แต่ที่น่าสนใจ คือ การแต่งตั้งนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน เป็นกรรมการอิสระ ทดแทนนางประณต ติราศัย มีผลตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป
แรมโบ้อีสาน ถือเป็นหนึ่งในนักการเมืองชื่อดัง และมีกระแสอยู่บนหน้าสื่ออยู่บ่อยครั้ง โดยปัจจุบันนั่งเป็นกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
เขาจบมัธยมต้นจากโรงเรียนครบุรี (มศ.5) โรงเรียนสุราษฎร์ธานี ส่วนปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะที่ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาเอก สาขายุทธศาสตร์การพัฒนา คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ในอดีต แรมโบ้อีสาน เคยเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคไทยรักไทย และเคยเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดินอีกด้วย
ต่อมาได้ย้ายเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2565 ได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ และเข้าร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และพ้นจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคในช่วงเวลาที่ผ่านมา
โดยแรมโบ้อีสาน เป็นผู้ก่อตั้ง พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ได้ส่งทีมงานของตนไปจดทะเบียนชื่อกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำชื่อไปใช้ เนื่องจากชื่อพรรคเป็นวลีที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งชื่อขึ้นด้วยตนเอง
ที่น่าสนใจ คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ปัจจุบันมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค และยังดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอีกด้วย
บทบาทของ นายพีระพันธุ์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คือเร่งปรับโครงสร้างพลังงาน โดยล่าสุดเดินหน้าปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน ซึ่งขณะนี้ได้ยกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นภารกิจที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ได้ให้คำมั่นไว้กับประชาชน โดยร่างกฎหมายที่ยกร่างขึ้นมานี้มีทั้งหมด 90 หน้า 180 มาตรา
ทั้งนี้อยู่ระหว่างให้คณะผู้เชี่ยวชาญไปนำไปตรวจสอบในรายละเอียดและปรับปรุงต่อไป ซึ่งหากแล้วเสร็จ จะนำเสนอเพื่อเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และนำเข้าสู่การพิจารณาสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
แรมโบ้อีสาน ถือเป็นหนึ่งในนักการเมืองชื่อดัง และมีกระแสอยู่บนหน้าสื่ออยู่บ่อยครั้ง โดยปัจจุบันนั่งเป็นกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
เขาจบมัธยมต้นจากโรงเรียนครบุรี (มศ.5) โรงเรียนสุราษฎร์ธานี ส่วนปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะที่ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาเอก สาขายุทธศาสตร์การพัฒนา คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ในอดีต แรมโบ้อีสาน เคยเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคไทยรักไทย และเคยเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดินอีกด้วย
ต่อมาได้ย้ายเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2565 ได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ และเข้าร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และพ้นจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคในช่วงเวลาที่ผ่านมา
โดยแรมโบ้อีสาน เป็นผู้ก่อตั้ง พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ได้ส่งทีมงานของตนไปจดทะเบียนชื่อกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำชื่อไปใช้ เนื่องจากชื่อพรรคเป็นวลีที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งชื่อขึ้นด้วยตนเอง
ที่น่าสนใจ คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ปัจจุบันมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค และยังดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอีกด้วย
บทบาทของ นายพีระพันธุ์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คือเร่งปรับโครงสร้างพลังงาน โดยล่าสุดเดินหน้าปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน ซึ่งขณะนี้ได้ยกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นภารกิจที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ได้ให้คำมั่นไว้กับประชาชน โดยร่างกฎหมายที่ยกร่างขึ้นมานี้มีทั้งหมด 90 หน้า 180 มาตรา
ทั้งนี้อยู่ระหว่างให้คณะผู้เชี่ยวชาญไปนำไปตรวจสอบในรายละเอียดและปรับปรุงต่อไป ซึ่งหากแล้วเสร็จ จะนำเสนอเพื่อเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และนำเข้าสู่การพิจารณาสภาผู้แทนราษฎรต่อไป