จับตา STPI ขายหุ้นเพิ่มทุน RO ลุ้นเสี่ยหนู "อนุทิน ชาญวีรกูล" จ่อควัก 46 ลบ.รับสิทธิ เกาะติด กลุ่มเสี่ยป๋อง ร่วมวงหรือไม่
จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ในเดือนสิงหาคม 2567 มีหุ้นขนาดใหญ่ที่น่าสนใจและอยู่ระหว่างการเปิดให้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพื่อจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนนี้ ประกอบด้วย
หุ้นบริษัทเอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) STPI เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 20-26 สิงหาคมนี้ ในราคาจองซื้อที่ 3.40 บาท และมีอัตราส่วน 12 หุ้นเดิม : 1หุ้นใหม่
หุ้นบริษัท เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)KEX ซึ่งช่วงระยะเวลาจองซื้อ 21- 27 สิงหาคม 2567 ในราคาจองซื้อหุ้นละ 3.20 บาท อัตราส่วน 0.6196 หุ้นเดิม : 1 หุ้นใหม่
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ STPI ล่าสุด ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2567 พบว่าผู้ถือหุ้นอันดับ 1 มีบลจ.เกียรตินาคินภัทร (รับโอนจากรมต.อนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อการจัดการทรัพย์สินของรมต.ฯ) ถือหุ้น 164,590,285 หุ้น คิดเป็น 10.28% ดังนั้น หากเสี่ยหนู หรือ "อนุทิน ชาญวีรกูล" รับสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อรักษาสิทธิสัดส่วนการถือครองหุ้น คาดว่าจะต้องใช้เงินเพิ่มทุนประมาณ 46,633,914 ล้านบาท
ขณะที่พบว่า "ชวรัตน์ ชาญวีรกูล" บิดาของ "อนุทิน ชาญวีรกูล" ถือหุ้นจำนวน 56,906,765 หุ้น คิดเป็น 3.55%รวมทั้งยังพบว่า กลุ่มเสี่ยป๋อง หรือ "วัชระ แก้วสว่าง" ถือครองหุ้น 11,000,000 หุ้นคิดเป็น 0.69% และ วรวิทย์ แก้วสว่าง ถือหุ้น 12,800,300 หุ้นคิดเป็น 0.80%
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นไทย ทำให้เป็นสิ่งที่น่าติดตามว่าบุคคลเหล่านี้จะใช้สิทธิรับหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้หรือไม่
สำหรับที่ผ่านมา STPI ได้มีแผนจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือครองหุ้น(Right Offerring) จำนวน 133,442,549 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยจะเสนอขายที่ราคาหุ้นละ 3.40 บาท ในอัตราส่วน 12 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ รวมเป็นมูลค่าไม่เกิน 453,704,666.60 บาท
นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 161,764,706 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ0.25 บาทเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด(Private Placement) ได้แก่ Impact Solar Group (ISG) ในราคาหุ้นละ 3.40 บาท หรือคิดเป็นมูลค่า 550,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนการได้มาซึ่งหุ้นสามัญของบริษัท อิมแพคท์ โซล่าร์ กรุ๊ป(ประเทศไทย) ISGT จากผู้ขาย (ISG) โดยจะนำหุ้นที่ถือในISGT จำนวน 39,356,150 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาทคิดเป็น 26.83% มาชำระเป็นค่าหุ้นเพิ่มทุนแทนการชำระด้วยเงินสด
อนึ่งโครงสร้างผู้ถือหุ้น 20 อันดับแรกของ STPI ล่าสุด ประกอบด้วย บลจ.เกียรตินาคินภัทร(รับโอนจากรมต.อนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อการจัดการทรัพย์สินของรมต.ฯ) 164,590,285 หุ้นคิดเป็น 10.28%
-
นาย จิรัฎฐ์ ธราเพชรสวัสดิ์ 79,839,611หุ้นคิดเป็น 4.99 %
-
บริษัท เบสท์ ควอลิตี้ สกิลส์ จำกัด 77,880,000 หุ้นคิดเป็น 4.86 %
-
นาย ยรรยง นิติสาโรจน์ 67,486,724 หุ้นคิดเป็น 4.21 %
-
นาย ชวลิต ลิ่มพานิชย์ 64,899,995หุ้นคิดเป็น 4.05%
-
นาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล 56,906,765 หุ้นคิดเป็น 3.55%
-
นาย สมชาย ประภากมล 50,485,881หุ้นคิดเป็น 3.15 %
-
น.ส. พัชร์สิตา พงษ์พิทยศิริ 49,956,771 หุ้นคิดเป็น 3.12 %
-
UBS SWITZERLAND AG 44,452,512 หุ้นคิดเป็น 2.78 %
-
UBS AG SINGAPORE BRANCH 40,559,783 หุ้นคิดเป็น 2.53 %
-
นาย ภานุพงศ์ คุโณปการพันธ์ 33,800,000 หุ้นคิดเป็น 2.11 %
-
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 26,486,651 หุ้นคิดเป็น 1.65 %
-
นาย ทรงชัย อัจฉริยหิรัญชัย 25,500,000 หุ้นคิดเป็น 1.59 %
-
นาง ละออง ทองสุข 18,592,433 หุ้นคิดเป็น 1.16 %
-
ร.ท. กิตติ จันทร์แสงศรี 16,224,995 หุ้นคิดเป็น 1.01 %
-
นาย ทรงชัย เทิดกตัญญูวงศ์ 14,115,000 หุ้นคิดเป็น 0.88 %
-
นาง ศิริพร แดงสุภา 13,000,000 หุ้นคิดเป็น 0.81 %
-
นาย วรวิทย์ แก้วสว่าง 12,800,300 หุ้นคิดเป็น 0.80 %
-
นาย วัชระ แก้วสว่าง 11,000,000 หุ้นคิดเป็น 0.69 %
- นาย ทวีศักดิ์ เบญจวิทูร 10,999,500 หุ้นคิดเป็น 0.69 %