บจ. mai รายงานผลการดำเนินงาน 6 เดือน ปี 2567 ยอดขายรวม 104,296 ล้านบาท กำไรสุทธิรวม 6,101 ล้านบาท
บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) รายงานผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2567 มียอดขายรวม 104,296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7% ต้นทุนขาย และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 5.6% และ 4.1% ตามลำดับ ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 44.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนใน mai จำนวน 212บริษัท คิดเป็น 96% จากทั้งหมด 221 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และบริษัทที่ปิดงบไม่ตรงงวด) นำส่งผลการดำเนินงาน โดย 6 เดือน ปี 2567 พบ บจ. รายงานกำไรสุทธิจำนวน 152 บริษัท คิดเป็น 72% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2567 ของ บจ. mai เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขาย 104,296 ล้านบาท และต้นทุนขาย 76,217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7% และ 5.6% ตามลำดับ ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้น 28,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% และมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 19,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 8,352 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.8% และ 80.5 % ตามลำดับ ซึ่งหากไม่นับรวมบริษัทจดทะเบียน 5 อันดับแรก ที่มีผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นจากการ Turn around กำไรสุทธิจะเป็น 4,949 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.8% อย่างไรก็ตาม งวด 6 เดือน ปี 2567 บจ. มีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น โดยพิจารณาจาก Gross Profit Margin Operating Profit Margin และ Net Profit Margin อยู่ที่ระดับ 26.9% 8.0% และ 5.7% เพิ่มขึ้น 1.4% 2.0% และ 2.3% ตามลำดับ
“ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2567 ของ บจ. ใน mai ปรับตัวดีขึ้น บจ. มีการควบคุมทั้งต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมาตั้งแต่ไตรมาสแรกในปีนี้ ทำให้ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น และหากพิจารณารายกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่ายอดขายเติบโตในเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ยกเว้นกลุ่มทรัพยากรที่มียอดขายลดลงเล็กน้อย แต่หากพิจารณากำไรจากการดำเนินงานและกำไรสุทธิ เกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น มีเพียงกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเทคโนโลยีที่มีกำไรลดลง” นายประพันธ์กล่าว
ในส่วนของฐานะทางการเงิน บจ. mai มีสินทรัพย์รวม 333,749 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากสิ้นปี มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) อยู่ที่ 0.76 เท่า ลดลงจากสิ้นปี 2566 ที่เท่ากับ 0.77 เท่า
ปัจจุบันมี บจ.ใน mai 221 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2567) ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 329.40 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) อยู่ที่ 337,943 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 1,639 ล้านบาทต่อวัน
ยอดนิยม

GC ตั้งเป้าพลิกจากภาวะขาดทุน ฝ่าจุดต่ำสุดอุตสาหกรรม มุ่งลดต้นทุน เพิ่มรายได้ 4,500 ล้านบาทต่อปี

KISS กำไรปี 67 โต 21% สอดคล้องรายได้พุ่ง ตั้งเป้ารายได้แตะ 4,000 ลบ. เพิ่มสัดส่วนรายได้ ตปท.เป็น 20% ในปี 73

ASP ประกาศจ่ายเงินปันผลปี 2567 รวม 0.15 บาทต่อหุ้น
.jpg)
ผู้ถือหุ้น “TRITN” ผสานเสียงอนุมัติ ควบรวมที่ดินบ้านไร่เตชะอุบล มูลค่า 1.4 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าสู่ยุทธศาสตร์ใหม่
_%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%20S2T.jpg)