จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : รัฐบาลเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ผลักดันผลงาน IND เติบโตตามเป้า
26 สิงหาคม 2567
“การลงทุนภาครัฐ” หนึ่งในเครื่องยนต์หลักที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยปีนี้ โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง หลังมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี และการประกาศมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งผลดีต่อ บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) ที่มีความพร้อมเข้าประมูลงานก่อสร้างของทั้งภาครัฐและเอกชน
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 2.6% แม้ตัวเลขในไตรมาส 2/2567 ออกมาอยู่ที่ 2.3% สูงกว่าที่คาดไว้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) หรือ 0.8% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าปรับฤดูกาล (QoQsa) ตามการเร่งเบิกจ่ายรายจ่ายภาครัฐ ตลอดจนการส่งออกสินค้าและบริการ (ท่องเที่ยว) ส่งผลให้จีดีพีครึ่งแรกของปี 2567 ขยายตัว 1.9%
ปัจจัยหนุนเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ได้แก่ 1.การบริโภคภาคเอกชนตามแรงส่งของการท่องเที่ยวและภาคบริการ โดยประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีจะเพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้านคน หรือขยายตัวจากปีก่อนถึง 24.6% หลังนักท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียนและยุโรปที่เพิ่มขึ้นจนกลับเข้าสู่ระดับก่อนโควิด-19 ในปี 2562 ขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาใกล้เคียงกับปกติมากขึ้น
และ 2.การเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐในช่วงท้ายของปีงบประมาณ (ก.ค.-ก.ย.) รวมถึงผลของฐานต่ำจากไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 แต่คาดว่าอัตราการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม ณ สิ้นปีงบประมาณปี 2567 จะยังต่ำกว่าสิ้นปีงบประมาณปี 2566
การเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐบาล จะส่งผลดีต่อภาคเอกชนที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะกับบมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) ซึ่ง “พรลภัส ณ ลำพูน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IND ระบุภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในครึ่งปีหลังเชื่อว่า จะฟื้นตัวจากการที่รัฐบาลขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยผลักดันให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมา รวมทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว ทำให้เห็นสัญญาณบวกที่ส่งผลดีต่อธุรกิจของ IND
"จากการที่ภาครัฐเร่งเดินหน้าโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานออกมา ทำให้บริษัทมีโอกาสเข้าร่วมประมูลงานใหญ่มากขึ้น และจากการที่ได้รับการพิจารณาดำเนินโครงการจากเทศบาลป่าตองในครั้งนี้จะช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีความพร้อมในทุกๆ ด้านที่จะรับงานทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต"นางสาวพรลภัส กล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ล่าสุดบริษัทได้ลงนามสัญญาโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณถนนทวีวงศ์ (พื้นที่ต้อนรับ Welcome Zone) กับเทศบาลเมืองป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยมีมูลค่าโครงการ 42 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินงาน 300 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 - 21 พฤษภาคม 2568 หนุนงานในมือเพิ่มขึ้นเป็น 1,376.02 ล้านบาท (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ก.ค.67 ) รวมถึงทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมประมูลโครงการพร้อมทั้งเตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ รวมถึงรายได้ กำไรในอนาคตให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเชื่อว่าด้วยประสบการณ์งานด้านวิศวกรรมที่ปรึกษา และออกแบบพร้อมก่อสร้างในการลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทำให้เป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อถือจากหน่วยงานต่างๆ จากภาครัฐและเอกชน ทำให้สามารถคว้างานโครงการต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 2.6% แม้ตัวเลขในไตรมาส 2/2567 ออกมาอยู่ที่ 2.3% สูงกว่าที่คาดไว้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) หรือ 0.8% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าปรับฤดูกาล (QoQsa) ตามการเร่งเบิกจ่ายรายจ่ายภาครัฐ ตลอดจนการส่งออกสินค้าและบริการ (ท่องเที่ยว) ส่งผลให้จีดีพีครึ่งแรกของปี 2567 ขยายตัว 1.9%
ปัจจัยหนุนเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ได้แก่ 1.การบริโภคภาคเอกชนตามแรงส่งของการท่องเที่ยวและภาคบริการ โดยประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีจะเพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้านคน หรือขยายตัวจากปีก่อนถึง 24.6% หลังนักท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียนและยุโรปที่เพิ่มขึ้นจนกลับเข้าสู่ระดับก่อนโควิด-19 ในปี 2562 ขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาใกล้เคียงกับปกติมากขึ้น
และ 2.การเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐในช่วงท้ายของปีงบประมาณ (ก.ค.-ก.ย.) รวมถึงผลของฐานต่ำจากไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 แต่คาดว่าอัตราการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม ณ สิ้นปีงบประมาณปี 2567 จะยังต่ำกว่าสิ้นปีงบประมาณปี 2566
การเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐบาล จะส่งผลดีต่อภาคเอกชนที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะกับบมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) ซึ่ง “พรลภัส ณ ลำพูน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IND ระบุภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในครึ่งปีหลังเชื่อว่า จะฟื้นตัวจากการที่รัฐบาลขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยผลักดันให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมา รวมทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว ทำให้เห็นสัญญาณบวกที่ส่งผลดีต่อธุรกิจของ IND
"จากการที่ภาครัฐเร่งเดินหน้าโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานออกมา ทำให้บริษัทมีโอกาสเข้าร่วมประมูลงานใหญ่มากขึ้น และจากการที่ได้รับการพิจารณาดำเนินโครงการจากเทศบาลป่าตองในครั้งนี้จะช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีความพร้อมในทุกๆ ด้านที่จะรับงานทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต"นางสาวพรลภัส กล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ล่าสุดบริษัทได้ลงนามสัญญาโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณถนนทวีวงศ์ (พื้นที่ต้อนรับ Welcome Zone) กับเทศบาลเมืองป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยมีมูลค่าโครงการ 42 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินงาน 300 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 - 21 พฤษภาคม 2568 หนุนงานในมือเพิ่มขึ้นเป็น 1,376.02 ล้านบาท (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ก.ค.67 ) รวมถึงทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมประมูลโครงการพร้อมทั้งเตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ รวมถึงรายได้ กำไรในอนาคตให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเชื่อว่าด้วยประสบการณ์งานด้านวิศวกรรมที่ปรึกษา และออกแบบพร้อมก่อสร้างในการลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทำให้เป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อถือจากหน่วยงานต่างๆ จากภาครัฐและเอกชน ทำให้สามารถคว้างานโครงการต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง