Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 29-08-24 (เสถียรภาพรัฐบาลจะเป็นอย่างไร..ถ้าไม่มี“พลังประชารัฐ”)


29 สิงหาคม 2567

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 29-08-24 (เสถียรภาพรัฐบาลจะเป็นอย่างไร..ถ้าไม่มี“พลังประชารัฐ”)

29-08-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

*** สถานการณ์ของการเมืองตอนนี้ ชาวบ้านอย่างเราๆ ก้อมองออกว่า “เพื่อไทย” เตรียมเขี่ย “พลังประชารัฐ” ออก และเตรียมเจรจาดึง “ประชาธิปัตย์” เข้าเสียบแทน ..ประเด็นที่เจ๊จะพูดถึงมันไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง.. เพราะทุกการเคลื่อนไหวของการเมือง มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั้งสิ้น

***มีการประเมินว่าเรื่องนี้ไม่ได้บวกต่อตลาดหุ้น แต่อาจรบกวนตลาดหุ้นเล็กน้อยในช่วงเวลาส้ันๆ ด้วยซ้ำ ...หากว่ามีการเปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาลเกิดขึ้นจริง จะทำให้ “เพื่อไทย” ถูกเฝ้ามองว่าจะมีเสถียรภาพดี ขึ้นหรือไม่ เพราะดูจากข้อมูลจำนวนเสียง(สส.) ของพรรคร่วมฯ จะลดลงจาก 314 เหลือ 299 เสียง  สำหรับรับตาแหน่งรัฐมนตรี ไม่น่าจะมี ปัญหาเพราะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งท่ีมีผลต่อตลาดหุ้น หรือกระทรวงหลัก 

***เจ๊ขอแสดงความยินดีกับ EA ด้วยนะ...ตอนนี้ถึงเวลาเดินหน้าลุยธุรกิจโดยไม่ต้องห่วงหน้า พวงหลังอีกแล้ว หลังจากสามารถเคลียร์หนี้ระยะสั้นเรียบร้อย “วสุ กลมเกลี้ยง”  บอกว่า “ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นกู้ทุกรุ่นที่ให้ความร่วมมือและไว้วางใจลงมติอนุมติให้บริษัทเดินหน้าต่อไป ขอขอบคุณสถาบันการเงินทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง วันนี้ EA เคลียร์ปัญหาหนี้ได้ ช่วงเวลาต่อจากนี้จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา ด้วยธุรกิจของบริษัทยังคงดำเนินตามปกติ ผู้บริหารชุดใหม่พร้อมเดินเครื่องการทำงานเต็มที่และมั่นใจว่าจะขับเคลื่อนบริษัทให้เติบโตต่อไป”    

***สำหรับก้าวต่อไปของ EA คือเดินหน้าจัดหาแหล่งเงินทุนทั้งจากสถาบันการเงินในและต่างประเทศ รวมถึงกำลังเจรจาหา Strategic Partners ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เพิ่มศักยภาพในการชำระหนี้และพัฒนาธุรกิจ ขณะเดียวกันก็ยังดำเนินการนำรายได้ในอนาคตเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) เสนอขายให้กับนักลงทุน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ก็จะมีความคืบหน้าที่ชัดเจน

***”พิชญา ตันโสด”ซีอีโอ สาว สวย เก่ง ของ  RICHY ออกมาตอกย้ำสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นกู้  หลังจากที่ ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้มีประกันครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 (RICHY249A) อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.1% ต่อปี มูลค่า 478.83 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ในวันที่ 3 กันยายน 2567 บริษัทฯได้มีการเตรียมความพร้อมนำเงินมาชำระหนี้หุ้นกู้ตามกำหนด ซึ่งถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินได้เป็นอย่างดี

***“ที่ผ่านมา RICHY สามารถคืนหนี้และไถ่ถอนหุ้นกู้ได้ตรงเวลาที่กำหนด และไม่เคยเกิดเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้แต่อย่างใด รวมถึงนำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ และมีความโปร่งใสในการบริหารจัดการเงินทุน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และความไว้วางใจจากผู้ถือหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง”

***ส่วนแผนงานของ RICHY ปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 50% เทียบปีที่ผ่านมา โดยมีแรงหนุนจากการรับรู้รายได้จากโครงการริชพอยท์ วุฒากาศ มูลค่าประมาณ 1,600  ลบ. ที่มียอดขายกว่า 800 ลบ. ทำให้ตอนนี้มี Backlog ในมือประมาณ 1,450 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปี 2567 – 2571 อีกทั้งกลุ่มธุรกิจ Recurring Income ก้อเริ่มสร้างรายได้แล้วด้วย

***ซีอีโอ สาว สวย เก่ง อีกคน “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” แห่ง WP (ผู้นำการค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภายใต้แบรนด์ "เวิลด์แก๊ส" )ยังทำงานแบบไม่มีเหน็ดเหนื่อย!!! ออมาส่งสัญญาณถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2567 คาดว่าจะเติบโตได้ดีจากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากภาพรวมธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ยังคงขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง ตามความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ส่งผลให้ยอดขายก๊าซ LPG มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดแบรนด์ “เวิล์ดแก๊ส” อยู่อันดับ 2 หรือคิดเป็น 20%

***สำหรับปี 67 นี้ WP ตั้งเป้ารายได้แตะที่ระดับ 18,250 ล้านบาท โดยมาจากยอดขายก๊าซ LPG จำนวน 820,000 ตัน และมีแผนขยายจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถกระจายสินค้าและเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น โดยปัจจุบันมีจุดกระจายสินค้ากว่า 175 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์ "แก๊สกระป๋อง" ภายใต้แบรนด์ เวิลด์แก๊ส เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในการพกพา สะดวก ปลอดภัย หาซื้อได้ง่ายด้วยการจัดจำหน่ายทั่วประเทศรองรับความต้องการของผู้บริโภค

***นอกจากนี้ WP ยังมีรายได้มาจากการรับรู้รายได้ในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาไปรวมทั้งสิ้น 11 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำให้กับบริษัทฯ หนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในอนาคต

***อีกบริษัทที่น่าสนใจ PSP ภายใต้การบริหารของผู้บริหารหนุ่มไฟแรง “เสกสรร ครองพาณิชย์” ออกมาส่งสัญญาณผลงานครึ่งปีหลังจะเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง  โดยตอนนี้มีออเดอร์ลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าแบบครบวงจร และเพิ่มอัตราการทำกำไรให้สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้รายได้ปี 2567 สามารถเติบโต 15-20% ตามเป้าหมายที่วางไว้

***ทบทวนความจำกันลืมนะ!! PSP ไตรมาส 2/67 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,411 ลบ.เพิ่มขึ้น 14.8%  และมีกำไรสุทธิ 201 ลบ. เพิ่มขึ้น 40.5% ส่วนงวด 6 เดือน มีรายได้รวม 6,915 ลบ. เพิ่มขึ้น 14.4%  และมีกำไรสุทธิ 385 ลบ. เพิ่มขึ้น 108.0% จากปีก่อน...งบสวยๆ แบบนี้ ผู้ถือหุ้นสบายใจได้ ภาพรวมผลงานทั้งปีไม่ผิดหวังแน่ๆ

***หันไปมองทาง บมจ.โซลาร์ตรอน หรือ SOLAR  บิ๊กบอสคนเก่ง “สิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ”ออกมากางแผนธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังว่าจะมุ่งเน้นหาพันธมิตรมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับงานใหม่ๆ รวมทั้งพัฒนา 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ธุรกิจผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Module), ธุรกิจออกแบบ ก่อสร้าง ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (EPC), ธุรกิจการบริหารจัดการด้านพลังงาน (ESCO), ธุรกิจการลงทุนใน Solar Farm และ Solar Rooftop, ธุรกิจการให้บริการบน Digital monitoring platform เพื่อเพิ่มศักยภาพของผลิตภัณฑ์ การบริการให้เหนือชั้น และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกระดับ 

***ในส่วนของธุรกิจหลักอย่างธุรกิจโซลาร์เซลล์ ได้เข้าร่วมประมูลงานทั้งในส่วนของภาครัฐ และเอกชน ซึ่งจากประสบการณ์ยาวนานกว่า 38 ปี มาตรฐานของสินค้า รวมทั้งเทคโนโลยีที่ได้มีการพัฒนาอย่างเหนือชั้น อย่างระบบ Digital monitoring platform ที่มีจุดเด่นในการตรวจสอบศักยภาพการผลิตไฟฟ้าได้ทุกที่ทุกเวลา และยังสามารถควบคุมการจัดการค่าพลังงานโดยใช้เทคนิคป้องกันไฟฟ้าย้อนกลับตามพฤติกรรมการใช้ของลูกค้า ทำให้คาดว่าจะสามารถคว้างานใหม่ๆ เข้ามาต่อยอดผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังได้ 

***CEO คนเก่งของ SOLAR บอกว่า“บริษัทฯ ยังคงเดินตามแผนกลยุทธ์เดิมที่ได้วางไว้ ทั้งการพัฒนาธุรกิจหลัก และการขยายไปยังธุรกิจใหม่ รวมถึงการต่อยอดจากธุรกิจเดิม และมั่นใจว่าภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะสดใส และเติบโตอย่างยั่งยืน”